คนรุ่นใหม่จีน เหนื่อยเกินไป จนอยากเป็นแค่ มนุษย์หนู Rat People
ชีวิตแบบ "มนุษย์หนู Rat People" เมื่อความเหนื่อยล้ากลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ของคนหนุ่มสาวจีน เสียงสะท้อนของคนรุ่นใหม่จีนที่เหนื่อยกับสังคมที่เร่งไม่หยุด
ช่วงนี้ คนรุ่นใหม่ในจีนเริ่มเรียกตัวเองว่า “เหล่าซู่เหริน” (老鼠人) หรือ “มนุษย์หนู” คำที่ดูเหมือนตลกแต่กลับสะท้อนความจริงอันขมขื่นของสังคมยุคใหม่ได้อย่างชัดเจน
“คนหนู” หมายถึงกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตเงียบ ๆ ในมุมมืดของเมืองใหญ่ ดำเนินชีวิตในแบบที่ไม่เร่งรีบ ไม่อยากแข่งขันกับใคร และมักใช้ชีวิตตอนกลางคืน เหมือนหนูที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดเพื่อเอาตัวรอด
ภาพชีวิตของ “คนหนู” อาจเริ่มต้นหลังเวลา 11 โมงเช้า พวกเขาใช้เวลาบนเตียง เล่นมือถือ ดูซีรีส์ หรือช้อปออนไลน์ กว่าจะลุกมากินมื้อแรกก็บ่ายสาม แล้วใช้เวลาที่เหลือไปกับการวนซ้ำระหว่างอาหาร เตียง และหน้าจอ จนหลับอีกทีในยามดึก เป็นภาพแทนของวิถีชีวิตที่เงียบ ง่าย และตัดขาดจากการแข่งขันในสังคม
คนรุ่นใหม่จีนยังคงว่างงานสูง
แม้คำนี้จะเริ่มจากการล้อเลียนในโลกออนไลน์ แต่ในเชิงลึก มันสะท้อนแรงกดดันมหาศาลที่คนหนุ่มสาวจีนกำลังเผชิญอยู่ ทั้งจากระบบการศึกษาและตลาดแรงงาน อัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่ยังอยู่ในระดับสูงกว่า 15% ขณะที่การแข่งขันเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำก็ยังคงเข้มข้นเหมือนเดิม หลายคนรู้สึกว่าทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้เหมือนรุ่นพ่อแม่ เพราะรายได้ไม่สมดุลกับค่าครองชีพและภาระทางสังคม
สะท้อนว่ายุคสมัยนี้ "ความพยายามไม่ได้ผลตอบแทนเหมือนเดิม" พวกเขาเห็นว่าการทำงานหนักไม่ได้การันตีอนาคตอีกต่อไป ในสังคมที่การแข่งขันรุนแรงและช่องทางความสำเร็จหดแคบลง หลายคนจึงเลือกจะ “ถอยออกมา” อย่างเงียบ ๆ มากกว่าจะฝืนอยู่ในเกมที่รู้ว่าไม่มีวันชนะ
ก่อนหน้านี้ จีนเคยมีคำฮิตอย่าง “ถังผิง” (躺平) หรือ “นอนแผ่” ที่หมายถึงการยอมวางมือจากการแข่งขันและเลือกใช้ชีวิตเรียบง่าย แต่ “มนุษย์หนู” คือพัฒนาการต่อจากนั้น พวกเขาไม่เพียงแค่หยุดนิ่ง แต่ยังคง “อยู่รอดในมุมมืด” ด้วยวิธีของตัวเอง ใช้เวลากลางคืนทำสิ่งที่ชอบ เล่นอินเทอร์เน็ต ทำงานฟรีแลนซ์ หรือหาความสุขเล็ก ๆ ในพื้นที่ส่วนตัว เป็นการใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องแข่งขันกับใครและไม่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของสังคม
ถึงแม้คำว่า “มนุษย์หนู” จะฟังดูเหมือนยอมแพ้ต่อชีวิต แต่นักวิชาการบางคนกลับมองว่ามันคือ “รูปแบบใหม่ของความพยายาม” เพราะแม้อยู่ในความมืด คนหนูเหล่านี้ก็ยังพยายามเอาตัวรอดในแบบของตัวเอง “เหมือนหนูที่ยังคลานไปข้างหน้า แม้จะอยู่ในที่มืดก็ตาม”
ที่มา : channelnewsasia
