svasdssvasds

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

เมื่อสายรัดข้อมือ หรือ ริสแบรนด์ เกือบกลายเป็นจุดจบของชีวิต 'เต่าสิมิลัน' ตัวหนึ่ง โชคดีที่มันรอดชีวิตมากได้ จากความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวของนักท่องเที่ยว

SHORT CUT

  • เต่าทะเลที่หมู่เกาะสิมิลันกินสายรัดข้อมือที่นักท่องเที่ยวป้อนให้โดยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร
  • สัตวแพทย์ใช้เวลารักษานานถึง 27 วัน กว่าเต่าจะสามารถขับสายรัดข้อมือพร้อมเศษอาหารอื่นๆ ที่มนุษย์ให้ ออกมาได้สำเร็จ
  • เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงอันตรายของการให้อาหารสัตว์ทะเล ซึ่งเป็นการแทรกแซงธรรมชาติและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

เมื่อสายรัดข้อมือ หรือ ริสแบรนด์ เกือบกลายเป็นจุดจบของชีวิต 'เต่าสิมิลัน' ตัวหนึ่ง โชคดีที่มันรอดชีวิตมากได้ จากความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวของนักท่องเที่ยว

มนุษย์เรามักพูดกันว่าการท่องเที่ยวคือการเปิดโลก แต่บางครั้งโลกที่เราไปเปิด 'ความสนุกชั่วครั้งชั่วคราว' หรือ 'ภาพถ่ายสวยๆ' หนึ่งใบ กลับถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์เอง และอาจต้องแลกด้วยชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้มานานกว่าเราหลายล้านปี?

กรณีล่าสุด ที่นักท่องเที่ยวได้ยื่น สายรัดข้อมือ (wristband) ให้เต่าทะเลกินระหว่างดำน้ำตื้นบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน สร้างความสะเทือนใจอย่างมาก เพราะความไม่รู้ของเต่าทีคิดว่าเป็นอาหาร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจนพบเต่าทะเลตัวดังกล่าวบริเวณเกาะห้า–เกาะหก ก่อนนำส่งยังท่าเรือทับละมุ เพื่อส่งต่อให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน รักษาอย่างเร่งด่วน

นี่เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่า 'ความสนุกของมนุษย์' คือพิษร้ายแรงที่สุดของระบบนิเวศ

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

27 วันแห่งความทรมาน ภายในร่างกายที่พูดไม่ได้

ข้อมูลจาก ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุถึงเหตุการณ์นี้ เป็นการกระทำที่เป็นอันตรายถึงชีวิตต่อสัตว์ทะเลหายาก สายรัดข้อมือยาง ที่กว้างถึง 20 เซนติเมตร เข้าไปติดอยู่ในทางเดินอาหารของเต่าทะเล ทีมสัตวแพทย์ต้องใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างหนัก ทั้งการฉายรังสี (X-ray) และการกลืนสารทึบรังสี (Barium) เพื่อเฝ้าติดตามตำแหน่งของวัตถุแปลกปลอมนี้แบบวันต่อวัน

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

โชคดีที่วันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมาเต่าทะเลสามารถขับอุจจาระออกมาได้ เป็นสายรัดข้อมือสีเหลืองพร้อมชื่อ 'บริษัททัวร์นำเที่ยว' แต่ยังมีใบสับปะรด เม็ดมะละกอ และใบตอง ซึ่งบนฝั่งอาจดูเป็นอาหารตามธรรมชาติ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เต่าทะเลจะหาทานเองได้ในท้องทะเล และเป็นอันตรายมากเพราะเป็นพืชที่ไม่สามารถย่อยในทางเดินอาหารได้

มันคือ 'เศษอาหาร' ที่มนุษย์หยิบยื่นให้ด้วยความเอ็นดูที่ผิดที่ผิดทาง

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

ขยะจากมนุษย์ และความใจดีที่ฆ่าสัตว์

การที่มนุษย์ชอบยื่นอาหารให้สัตว์ เป็นการสร้างความคุ้นเคยที่ผิดธรรมชาติ เมื่อสัตว์เรียนรู้ว่ามนุษย์คือแหล่งอาหาร พวกมันจะเลิกหาอาหารเอง และรอเข้าหาสิ่งที่มนุษย์ยื่นให้โดยไม่คัดกรอง กรณีนี้ เต่าโชคดีที่ระบบขับถ่ายยังทำงานได้ แต่ก็ใช้เวลามากถึง 27 วันในการขับมันออกมา

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

ไม่ใช่เต่าทุกตัวจะโชคดีเหมือนเคสสิมิลัน ปี 2565 ลูกเต่าทะเลหายาก 11 ตัว ที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 1 เดือน ลอยติดแพขยะขนาดใหญ่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามช่วยชีวิต แต่พวกมันยังเด็กและอ่อนแอเกินไปและตายทั้งหมด เมื่อชันสูตร พบว่าลูกเต่าตัวน้อยทุกตัวมีขยะอยู่ในทางเดินอาหาร แม้จะได้รับการรักษา แต่พวกมันก็ไม่สามารถขับถ่ายเพื่อนำขยะเหล่านี้ออกมาได้ จึงทำให้ทางเดินอาหารอุดตัน ไม่ย่อยและตายในที่สุด

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

เว็บไซต์ Fair Planet ซึ่งเคลื่อนไหวเกี่ยวกับประเด็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รายงานข้อมูลเกี่ยวกับ 'ขยะทะเล' จากองค์กรอนุรักษ์ท้องทะเล (The Ocean Conservancy) พบว่า ข้อมูลจาก ปี 2020-2021 ในแต่ละปีสัตว์น้ำกว่า 100 ล้านชีวิตต้องจบชีวิต โดยมีสาเหตุมาจากขยะพลาสติกที่อยู่ในมหาสมุทร และมีสัตว์น้ำ 100,000 ชีวิตตายจากการถูกพลาสติกพันหรือห่อหุ้มจนขาดอากาศหายใจ

แม้ขยะชิ้นน้อยเหล่านี้จะเล็กในสายตามนุษย์เพียงใด แต่มันก็สร้างความเจ็บปวด ความทรมานให้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

เลิก 'ให้อาหาร' เพื่อให้เขารอดชีวิต

เราต้องเปลี่ยนนิยามของการเป็น 'นักท่องเที่ยวที่ดี' ใหม่ การดูแลธรรมชาติไม่ใช่แค่การไม่ทิ้งขยะ แต่คือการ 'ไม่แทรกแซง' ธรรมชาติและระบบนิเวศ

  1. Stop Feeding : อาหารของมนุษย์มีน้ำตาลและกากใยที่สัตว์ทะเลไม่สามารถย่อยได้ (เหมือนที่พบใบตองและเม็ดมะละกอในท้องเต่าสิมิลัน) ซึ่งจะก่อให้เกิดการหมักหมมและแก๊สในกระเพาะอาหาร
  2. Observe, Don't Interact : การรักษาระยะห่างคือการเคารพพื้นที่ส่วนตัวของสัตว์ป่า, สัตว์ทะเล ควรได้ใช้ชีวิตถามวิถีทางธรรมชาติ
  3. Think Before Giving : สิ่งที่คุณคิดว่า 'แค่เศษอาหารชิ้นเดียว' หรือแค่สนุกๆ สำหรับสัตว์มันคือกับดักมรณะ ที่ตายได้

27 วันในท้องเต่าสิมิลัน กับ 'สายรัดข้อมือ' อาหารที่ถูกมนุษย์หยิบยื่นให้

บทเรียนราคาแพงครั้งนี้ใช้ทั้งงบประมาณรัฐ ทีมสัตวแพทย์ และเวลาเกือบเดือน เพื่อแก้ปัญหาความคึกคะนองเพียงเสี้ยวนาทีของมนุษย์ การไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์เป็นเรื่องดี แต่ต้องไม่ใช่การโยนภาระให้สิ่งมีชีวิตอื่น ระบบนิเวศที่เปราะบางแบบนี้ บางทีการ 'มองเฉยๆ' และ 'ไม่ให้อาหาร' นั่นแหละ คือการแสดงความรักต่อธรรมชาติที่จริงใจที่สุดแล้ว

related