svasdssvasds

ส่อง "บริษัทจดทะเบียน" ใน SET มี 600 แห่งทำรายงาน ESG 55 แห่งได้รับรองคาร์บอนฯ

ส่อง "บริษัทจดทะเบียน" ใน SET มี 600 แห่งทำรายงาน ESG 55 แห่งได้รับรองคาร์บอนฯ

จะทำธุรกิจยุคใหม่ต้องเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน พาส่องบริษัทจดทะเบียนใน SET พบมี 600 แห่ง ทำรายงาน ESG และมี 55 แห่งได้รับรองคาร์บอนเครดิต

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ได้ออกกำหนดแผนกลยุทธ์ 3 ปี (2567-2569) ขับเคลื่อน 3 มิติหลักเข้มข้นขึ้น เพื่อมุ่งสร้างตลาดทุนไทยที่มีคุณภาพสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (Delivering Market Quality x Growth) ในหลายด้าน ทั้งมิติด้านธุรกิจผ่านการสร้างโอกาสในการลงทุนและระดมแล้ว SET ยังให้ความสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนผ่านการลงทุนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

โดยได้ยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนทั้งกระบวนการ ก​ารพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ หรือการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการขับเคลื่อนการพัฒนาตลาดทุนไทยเพื่อสนับสนุนในมิติด้านสิ่งแวดล้อม และทางสังคม

ทั้งการประกาศเป้าหมายขับเคลื่อนสู่ Net zero ภายในปี 2050 การสนับสนุนบริษัทจดทะเบียนที่ต้องการได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการขับเคลื่อน ESG Ecosystem ผ่านการมีเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งในมิติของสังคมที่มุ่งเน้นส่งเสริม Financial Literacy ส่งเสริมกลุ่มธุรกิจเพื่อสังคม และการดูแลด้านธรรมมาภิบาลในการทำธุรกิจ โดยจากข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า บริษัทจดทะเบียน ใน SET ประมาณ 800 แห่ง มีเพียง 600 แห่ง ที่ได้มีการจัดทำรายงานข้อมูลด้านความยั่งยืน หรือ ESG หรือคิดเป็น 74%

พร้อมกันนี้มีเพียง 193 แห่ง ที่มีการรายงานข้อมูลคาร์บอนเครดิตขององค์กร และมีเพียง 55 แห่ง ที่สามารถได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) TGO พร้อมทั้งประกาศเป้าหมาย Net zero ขององค์กรได้

สำหรับปัญหา และอุปสรรค ที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืน คือ การขาดเครื่องมือ รวมถึงต้นทุนการที่สูงขึ้น จากขั้นตอนในการจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กร การนำข้อมูลมาคำนวณเป็นตัวเลขคาร์บอนเครดิต รวมถึงการหาผู้รับรองตัวเลขคาร์บอนเครดิตที่ทางองค์กรคำนวณได้

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจในการสร้างเครื่องมือ อย่าง SET Carbon เพื่อเป็นมาตรฐานกลางในการคำนวณข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กร เพื่อเทียบเป็นปริมาณคาร์บอนฟุตพรินท์ที่แต่ละองค์กรได้ปลดปล่อย จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใน ESG Ecosystem และช่วยอำนวยความสะดวกในการขับเคลื่อนสู่การพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคธุรกิจไทยได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนความยั่งยืน ผ่านมิติทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้ความรู้ด้าน ESG มิติสังคม ผ่านการส่งเสริมด้าน Financial Literacy และบรรษัทภิบาล มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจด้านกลไกของตลาดทุนให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related