สร้างเมืองปลอดภัยด้วยจักรยาน? เมืองซูริค ทุ่มงบ 150 ล้าน สร้างอุโมงค์ใต้ดินสำหรับ ‘จักรยาน’ ความยาว 440 เมตร ไม่เจอรถติด ลดมลพิษไปในตัว
เคยคิดกันไหมว่าหากสักเมืองหนึ่งของไทย มีอุโมงค์ไว้สำหรับปั่น ‘จักรยาน’ โดยเฉพาะ เราจะลดค่าเดินทางได้เท่าไหร่ รถจะติดน้อยลงมั้ย เอาเป็นว่าไอเดียนี้เกิดขึ้นแล้วที่ ‘เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์’ นี่คือ ‘อุโมงค์สตัดทันเนล’ (Stadttunnel)
อุโมงค์แห่งนี้ตั้งอยู่ใต้ดิน ทอดตัวยอมใกล้กับสถานีรถไฟ Hauptbahnhof มีความยาว 440 เมตร กว้าง 6 เมตร สัญจรได้ 2 ทั้งสองทาง โดยยานพาหนะที่ได้รับอนุญาตให้สัญจรคือ จักรยาน จักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จำกัดความเร็วที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่อนุญาตให้เดิน และขับรถ
เชื่อมต่อถนน 2 สายหลัก ได้แก่ ถนนคาเซอร์เนนสตราสเซ เขต 4 กับถนนซิห์ลไค เขต 5 ภายใน นอกจากมีเลนส์สำหรับใช้สัญจรแล้ว ชาวซูริคยังสามารถจอดจักรยาน และยานพาหนะที่ได้รับอนุญาต ได้ฟรี สามารถจอดได้ 1,240 ไฟฟ้า และมีจุดชาร์จจักรยานไฟฟ้าให้พร้อม
นอกจากนี้ ภายในอุโมงค์ยังมีระบบไฟส่องทาง LED กล้องวงจรปิด ป้ายบอกทางที่ชัดเจน ทั้งยังมี Space ให้บรรดานักปั่นไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจด้วย
อันที่จริงอุโมงค์แห่งนี้ มีมาตั้งแต่ปี 80s แล้ว แต่เป็นอุโมงค์สาธารณะที่ ไม่ได้จำกัดประเภทยานพาหนะ จนกระทั่งปี 2011 จึงมีการหยิบโครงการนี้มาปัดฝุ่นใหม่ และมีการเสนอให้ทำเป็นอุโมงค์สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ
ในปี 2014 ทางเมืองซูริค เริ่มพัฒนาโครงการนี้ต่อ และเริ่มติดตั้งระบบความปลอดภัย เช่น ทางหนีไฟ และสร้างทางเชื่อมอุโมงค์กับสถานี จนในปี 2020 ประชามติกว่า 74% ลงความเห็นว่าควรให้อุโมงค์แห่งนี้ เป็นอุโมงค์สำหรับปั่นจักรยาน
ด้านเมืองซูริค เปิดเผยว่า งบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินสำหรับปั่นจักรยานแห่งนี้คือ 41.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 156 ล้านบาท
ซิโมน แบรนเดอร์ สมาชิกสภาเมืองกล่าวในพิธีเปิดอุโมงค์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ในที่สุดประชาชนก็สามารถขับรถผ่านอุโมงค์ของเมืองได้ อุโมงค์แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายจักรยานของเมืองซูริก และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อจักรยานที่ปลอดภัยและสะดวกใต้สถานีรถไฟหลัก กล่าวโดยสรุปคือ อุโมงค์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการปั่นจักรยานของเรา”
นี่เป็นโจทย์ใหญ่ให้เราย้อนกลับมามอง ปัญหารถติด มลพิษ ความแออัดบนท้องถนน เราจะแก้ความยุ่งเหยิงด้วยวิธีใด หรือบางทีของเดิมที่มีอยู่แล้ว ก็อาจจะนำไปใช้ประโยชน์แบบที่เมืองซูริคทำก็ย่อมได้
ที่มา: cyclingmagazine
ข่าวที่เกี่ยวข้อง