
ICHITAN ReCircle x วันปล่อยเสือ ปี 5 มันส์ให้หนัก แต่รักโลกหนักกว่า เปลี่ยนขยะกว่า 1.27 ตัน ให้มีชีวิตใหม่ได้ไม่รู้จบ ด้วยระบบรีไซเคิลแบบปิด
คอนเสิร์ตหนึ่งครั้งสามารถสร้างขยะได้มากแค่ไหน
คุณเคยมีความคิดแบบนี้บ้างไหม? ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับเสียงดนตรี แสงสี และบรรยากาศสุดเหวี่ยงในเทศกาลดนตรี แต่เมื่อมองไปรอบตัวแล้วเห็นขวดพลาสติก แก้วน้ำ และเศษขยะเกลื่อนพื้น ทำให้มีความรู้สึก ‘ตะขิดตะขวง’ เกิดขึ้น ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
เอาเข้าจริง ปัญหาอาจไม่ใช่ "พลาสติก" แต่คือ "ระบบการจัดการ" ที่ล้มเหลวต่างหาก เรามักถูกสอนให้ "แยกขยะ" แต่กลับไม่เคยเห็นปลายทางว่าขยะที่แยกไปแล้วไปจบที่ไหน สุดท้ายทุกอย่างก็ถูกเทรวมกันที่หลุมฝังกลบ กลายเป็นต้นตอของก๊าซเรือนกระจก
แต่ในงานคอนเสิร์ต “วันปล่อยเสือ ปี 5 จงมันส์ดี” เทศกาลดนตรีแนว ECO Friendly แห่งแรกของไทย พร้อมแนวคิด “ฟินคอนเสิร์ตได้ ไม่ทำร้ายโลก” สร้างทางเลือกใหม่ให้คนรุ่นใหม่สนุกได้แบบไม่ทิ้งภาระให้โลกเข้าใจจุดนี้ พวกเขาไม่ได้แค่ติดป้าย 'ECO' หน้างาน แต่กำลังใช้ 'Music Marketing' เป็นเครื่องมือเจาะเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมงานกว่า 33,000 คน
สิ่งที่น่าสนใจคือ อิชิตันเลือกจับมือกับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง นั่นคือ สมาคมซาเล้งแห่งประเทศไทย ในการออกแบบ "ระบบคัดแยกขยะ" หน้างาน ทำให้การจัดการขวด PET, แก้ว, กระป๋อง และกระดาษ มีประสิทธิภาพสูงสุด บวกกับการสร้างแรงจูงใจเล็กๆ ผ่านกิจกรรม "แลก 3 ขวด รับฟรี 1 ขวด" กระตุ้นให้ผู้คนในงาน เปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ กลายเป็นการส่งคืนทรัพยากรเข้าสู่ระบบ
แนวคิดนี้คือการเปลี่ยนขยะให้กลับมามี "ชีวิตใหม่ได้ไม่รู้จบ" ขวด PET ที่ดื่มในงาน จะไม่ได้ไปปนเปื้อนที่ไหน แต่จะถูกนำกลับเข้ากระบวนการ เพื่อผลิตเป็นขวดใหม่ หมุนเวียนกลับมาใช้ไม่มีที่สิ้นสุด ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงภายในเวลาเพียง 2 วัน คือ
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ อิชิตัน กรุ๊ป ระบุว่า "ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว... อิชิตันตั้งใจทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของคนรุ่นใหม่ ผ่านไลฟ์สไตล์ในแบบที่พวกเขารักอย่างเสียงเพลง... ความยั่งยืนเริ่มได้จากเรื่องเล็ก ๆ ด้วยมือของทุกคน"
โปรเจกต์ Ichitan ReCircle ไม่ได้จบแค่ในคอนเสิร์ตนี้ แต่มันกำลังถูกวางแผนขยายไปยังโรงเรียน มหาวิทยาลัย และพื้นที่ไลฟ์สไตล์อื่นๆ ด้วยเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นคือการเก็บขวด PET กลับสู่ระบบให้ได้ 9,000 ตันต่อปี เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593
สิ่งที่เกิดขึ้นในงานคอนเสิร์ตรักษ์โลก วันปล่อยเสือ จึงไม่ใช่แค่ "อีเวนต์รักษ์โลก" ที่จัดแล้วจบไป แต่มันคือการพิสูจน์แนวคิด ว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่าง "ความสนุก" กับ "ความรับผิดชอบ" เพราะมันสามารถไปด้วยกันได้
การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง ไม่ได้เริ่มจากใครคนใดคนหนึ่ง แต่เริ่มจาก "มือของทุกคน" ที่ตัดสินใจเลือกทิ้งขวดให้ถูกที่... เพื่อให้มันได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง