
พาส่องรักษ์โลกยุคใหม่! สไตล์บิ๊กแบรนด์ กับพันธกิจทำธุรกิจต้องดูแลโลก ดูแลสังคมไปด้วย เพื่อโลกแห่งอนาคตจะได้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
โลกกำลังเปลี่ยน... แบรนด์ก็ต้องเปลี่ยนเช่นกันในวันที่ผู้บริโภคไม่ได้เลือกสินค้าจาก “ราคา” หรือ “ดีไซน์” เพียงอย่างเดียว แต่เลือกจาก “คุณค่าที่แบรนด์ยืนหยัด” คำว่า Sustainability หรือความยั่งยืน จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจที่อยากอยู่รอดในโลกยุคใหม่ ดังนั้น “การรักษ์โลก” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่วัดได้จริง ทั้งเรื่องภาพลักษณ์ การเติบโต และความเชื่อมั่นในระยะยาว แล้วแบรนด์ต่างๆต้องทำอย่างไรให้รักษ์โลกได้อย่างมีสไตล์ และจริงจังไปพร้อมกัน?
วันนี้ #SPRiNG ชวนสำรวจแนวทางรักษ์โลกในแบบของ 3 บิ๊กแบรนด์ใหญ่ ในหลากหลายธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ต่างมีวิธีตีโจทย์ความยั่งยืนในแบบของตัวเอง มาเริ่มกันที่ ‘ศรุต วิทยารุ่งเรืองศรี’ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายองค์กรสัมพันธ์การสื่อสารและความยั่งยืน บริษัท โคคา-โคล่า ประจำประเทศไทย และ ลาว เปิดเผยว่า โค้กชวนคนไทยมาร่วมกิจกรรม "รักษ์โลกสไตล์โค้ก" โดยเน้นคืนขวด-แยกบรรจุภัณฑ์ ใช้แล้วสร้างขวดใหม่ พร้อมลุ้นโชค
ซึ่งจะมีการเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิดรักษ์โลกสไตล์โค้ก มีหัวใจสำคัญคือการส่งเสริมให้เกิดการคืนขวดโค้กเพื่อเกิดเป็นขวดใหม่ ชวนลูกค้าเข้าโครงการโค้กชวนแยก แลกลุ้นโชค กับ Trash Lucky ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกเพื่อแยกบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว และนำไปหย่อนที่จุดตั้งรับ พร้อมทั้งสามารถสะสมแต้มลุ้นรางวัล ไปด้วยกันได้ โดยปัจจุบันโครงการนี้มีจุดตั้งรับกว่า 80 จุดทั่วประเทศ
ทั้งนี้การดำเนินการนี้มีเป้าหมายเพื่อนำบรรจุภัณฑ์ที่ถูกแยกแล้วไปสร้างให้ เกิดเป็นขวดใหม่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรีไซเคิลอย่างครบวงจร มีการนำเสนอตัวอย่างขวดโค้กที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล 100% โดยยกเว้นเฉพาะฉลากและฝาเท่านั้น สำหรับช่องทางและกิจกรรมการมีส่วนร่วมเพื่อโลกของเราโค้กได้จัดเตรียมช่องทางการรับบรรจุภัณฑ์และการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกิจกรรมในงาน GREEN HUG ตลาดนัดรักษ์โลก จะมีกิจกรรมมากมายที่ ดีต่อโลก ดีต่อใจ ที่จะจัดขึ้นที่จุฬาฯ ซอย 5 ระหว่างวันที่ 22–23 พฤศจิกายน 2025 | เริ่ม 16.00 น. โดยโค้กจะขอให้ผู้เข้าร่วมงานที่มาร่วมกิจกรรมที่บูธของโค้กอย่าลืมนำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วมาด้วย เพราะทางโค้กจะจัดเตรียมถังขนาดใหญ่ ที่มีรูปทรงเป็นขวดโค้กยักษ์ ไว้สำหรับให้ผู้บริโภคนำบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วมาหย่อนใส่ถังเพื่อร่วมลุ้นรางวัลต่อไป
มาดูแบรนด์ต่อมา คือ เดอะมอลล์กรุ๊ป นำทัพโดย ‘นที ศรีรัศมี’ Senior Vice President - Digital Retail เดอะมอลล์กรุ๊ป บอกว่าเดอะมอลล์กรุ๊ปมีแนวคิดเรื่องการรักษ์โลกมานานกว่า10ปีแล้ว ด้วยความเชื่อว่าการที่ลูกค้าจะมีความสุขได้นั้น นอกเหนือจากโปรโมชั่นที่ดี สินค้าที่ดี และร้านอาหารอร่อยแล้ว ชุมชนที่เราอยู่ก็ต้องสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วยโครงการและกิจกรรมที่เดอะมอลล์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืน ได้แก่
พร้อมกันนี้ เดอะมอลล์กรุ๊ป ยังเน้นย้ำว่า การให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน เป็นสิ่งที่จำเป็น และการเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เป็นหนึ่งในความพยายามที่จะปลูกฝังจิตสำนึกและให้ความรู้เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทุกคนเข้ามารักษ์โลก และสนับสนุนโครงการดี ๆ
สำหรับงาน GREEN HUG ตลาดนัดรักษ์โลก ลูกค้าและผู้เข้าร่วมงานจะพบกับกิจกรรมที่เน้นการปฏิบัติจริงและได้รับรางวัลตอบแทน เช่น การคัดแยกขยะ เดอะมอลล์ได้เตรียมเรื่องของการ คัดแยกขยะ ไว้สำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดังนั้นขอเชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมงาน และอย่าลืมแวะที่ บูธเดอะมอลล์ เพื่อร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรักษ์โลกและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ชวนแยกแลกของรางวัล ที่ Recycle Station พร้อมรับของรางวัลมากมาย เวิร์กช็อปที่ให้คุณเปลี่ยนพลังธรรมชาติ…เป็นแรงบันดาลใจแห่งศิลปะและความยั่งยืน กับกิจกรรม D.I.Y ตีและเคาะดอกไม้เป็นลวดลายบนถุงผ้า By The Mall Group
ปิดท้ายกันที่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าสนใจ นำโดย ‘สมิชฌน์ เพ็ชรดี’ ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ(ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยเน้นย้ำว่าการรักษ์โลกไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่กระแสหรือเทรนด์ แต่เป็นสิ่งที่อยู่ภายใน DNA ขององค์กรอยู่แล้ว แนวทางนี้ถูกขับเคลื่อนผ่านหลักการสำคัญคือ Creating Shared Value (CSV) หรือการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม
โดยการการรักษ์โลกสไตล์อายิโนะโมะโต๊ะจะเริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆในทุกวันการดำเนินงานตามหลักการรักษ์โลกของอายิโนะโมะโต๊ะคือการทำเรื่องง่ายๆ ในทุกๆวันโดยหนึ่งในโครงการหลักที่มุ่งเน้นคือโครงการ "เก็บดี มีสุข" โครงการนี้มีจุดประสงค์เพื่อต้องการให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาขยะพลาสติก และส่งเสริมให้เริ่มต้นทำจากสิ่งเล็กๆนั่นคือการ เก็บ คัดแยก แล้วก็ส่งคืนขยะ
ทั้งนี้เพื่อให้ตัวขยะเหล่านี้มีประโยชน์และมีคุณค่าของมัน และยังช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกจากการนำไปเผาด้วย อายิโนะโมะโต๊ะจะดำเนินการเรื่องขยะพลาสติกนี้ต่อไป และพยายามที่จะขยายขอบเขตของการทำงาน โดยยอมรับว่าการสร้างความตระหนักให้กับประชาชนและภาคสังคมเกี่ยวกับปัญหาขยะพลาสติกนั้นเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมาก องค์กรจึงพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะดำเนินการในเรื่องของการคัดแยกขยะต่างๆ
นอกจากโครงการที่มุ่งเน้นพฤติกรรมผู้บริโภคแล้ว อายิโนะโมะโต๊ะ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ โดยพยายามปรับเปลี่ยนดีไซน์เพื่อให้ บรรจุภัณฑ์ของบริษัทสามารถนำไปรีไซเคิลได้ทุกตัว ซึ่งแนวโน้มในอนาคตจะดำเนินไปในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่องปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ของอายิโนะโมะโต๊ะในประเทศไทยสามารถรีไซเคิลได้อยู่ที่ประมาณ 60% ซึ่งนับว่าเป็นการก้าวหน้าเร็ว และเร็วกว่าแผนของประเทศที่มุ่งสู่ Net Zero ทั้งนี้ บริษัทฯได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในประเทศไทยว่า ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573) ผลิตภัณฑ์ของบริษัท 100% จะต้องสามารถรีไซเคิลได้
สำหรับกิจกรรมภายในงานงาน GREEN HUG ตลาดนัดรักษ์โลก อายิโนะโมะโต๊ะ ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจในประเด็นความยั่งยืนและการรักษ์โลก มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณค่าร่วมกัน และร่วมกิจกรรมเรียนรู้ที่ บูธของอายิโนะโมะโต๊ะในงาน "กรีนฮัก" เพื่อทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการแยกขยะและการลดปัญหาขยะพลาสติกอย่างต่อเนื่อง มาร่วมกันตระหนักถึงความสำคัญ และเริ่มจากการ เก็บ คัดแยก และส่งคืน ขยะพลาสติก เพื่อให้เกิดประโยชน์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน
แน่นอนว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์ของโลก แต่คือบทพิสูจน์ว่า “แบรนด์ที่ยิ่งใหญ่” ต้องไม่ทิ้งโลกใบนี้ไว้ข้างหลัง การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่คือ “หัวใจของการทำธุรกิจ” ที่จะพาโลกก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและน่าอยู่ยิ่งขึ้น