นิทรรศการนี้คือพื้นที่ที่สองโลกทีมีโอกาสได้มาพบกัน เพราะสำหรับ ‘ทรงศีล’ แล้ว ‘หัวไฟ’และตัวละครทุกตัวในเรื่องเล่าของเขานั้นมิใช่เพียงคาแรคเตอร์ที่ถูกวาดขึ้น แต่เป็นชีวิตในโลกอีกใบที่สร้างขึ้นมาเพื่อชักชวนผู้คนให้เข้าไปโลดแล่นบนผืนผ้าใบด้วยกัน
ภาพวาด เรื่องราว และผลงานศิลปะรูปแบบต่าง ๆ ที่เขาสร้างสรรค์ตลอดเวลากว่า 20 ปีของการเป็นศิลปิน
โดยที่เขาเชื่อว่าความคิดและจิตวิญญาณของเรา สามารถเป็นอิสระได้เสมอ และงานศิลปะก็คือหนึ่งในประตูที่จะพาเราไปสู่โลกซึ่งเต็มไปด้วยมุมมองเปิดที่กว้างแบบไร้ขอบเขต
นิทรรศการ FIREHEAD: SOUL LIBERATE ภาพวาดหลายรูปได้ถูกวาดขึ้นสำหรับนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงภาพผลงานต้นฉบับจากนิยายภาพ ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ ที่ไม่เคยนำออกแสดงที่ใดมาก่อน
ในความเป็นจิตรกรอันสอดคล้องกับการเป็นนักเขียนวรรณกรรม ‘ทรงศีล’ ได้นำเสนอผลงานภาพวาดที่ผสมผสานความเหนือจริง ผ่านเซนส์ของนักเล่าเรื่องผู้ชำนาญ จนเกิดเป็นผลงานหลากสไตล์ที่แต่ละชิ้นล้วนมีลักษณะเฉพาะและเรื่องราวของตนเอง ตั้งแต่การตัดเส้นชัดเจนใช้สีฉูดฉาดปลุกเร้าพลังชีวิต หรือเยือกเย็นลุ่มลึกต่อจิตวิญญาณด้วยโทนขรึมละเมียดละไม ไปจนถึงบรรยากาศอบอุ่นเสมือนภาพตรงหน้าเป็นเพื่อนที่คุ้นเคย รวมทั้งเสียงดนตรีของนิทรรศการที่ทรงศีลออกแบบอย่างเจาะจง และบันทึกเสียงด้วยตนเอง
โดยทุกเทคนิคในการวาดภาพและสร้างสรรค์งานศิลปะเหล่านี้ ล้วนมุ่งหมายให้ผลงานแต่ละชิ้นเกิดพลังงานในรูปแบบเฉพาะของตนเองอย่างเต็มที่ และให้พลังงานนั้นส่งต่อไปยังผู้ชม เพื่อให้ความจริงสะท้อนผ่านความเหนือจริง มอบพลังในการมีชีวิต และปลดปล่อยจิตวิญญาณให้เป็นอิสระ
ศิลปะเป็นภาษาสากลซึ่งสามารถสัมผัสหัวใจได้เช่นเดียวกับความรัก ความหวัง และความฝัน โดยหนึ่งพลังแห่งความคิดและจินตนาการนั้นก็สามารถถูกถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะได้หลากหลายรูปแบบเพื่อจะส่งพลังงานเหล่านั้นไปสู่ผู้คน
ผลงานหนังสือในรูปแบบ Graphic Novel หรือวรรณกรรมที่เต็มไปด้วยภาพของ'ทรงศีล' ได้รับการตีพิมพ์ทั้งในประเทศไทย ไต้หวัน เวียดนาม จีน และญี่ปุ่น ควบคู่ด้วยรางวัลนิยายภาพยอดเยี่ยมจาก Seven Book Awards และการเข้าชิงรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนปี 2021 (S.E.A. Write) ในรอบสุดท้าย
รางวัลที่ทรงศีลภูมิใจที่สุดคือการที่มีผู้คนจำนวนมากติดตามผลงานของเขาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 20 ปีของการทำงาน โดยหนึ่งในบทพิสูจน์คุณภาพการเป็นศิลปินอาชีพของเขาคือนิยายภาพชุด ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ ทั้ง 10 เล่มที่ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่เล่มแรกออกมาในปี พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบัน (เล่มที่ 10 ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2565) และทำให้ตัวละครหัวไฟถูกจดจำเหมือนตัวแทนของทรงศีลในการตั้งคำถามต่อโลก สื่อสารกับผู้คน ไปจนถึงท้าทายความคิดด้วยการทดลองแปลกใหม่ผ่านงานศิลปะที่มีหัวไฟเป็นตัวจุดชนวน
โดยปีนี้ก็นับเป็นปีที่พิเศษอย่างยิ่ง เมื่อต้นฉบับงานภาพของนิยายภาพชุด ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ จะถูกจัดแสดงร่วมกับผลงานจิตรกรรมบนผืนผ้าใบทั้ง 38 ชิ้น ที่ตกผลึกจากการเป็นจิตรกรอันสอดคล้องกับการเป็นนักเขียนวรรณกรรม ผสมผสานจนเกิดผลงานที่ลึกซึ่งทั้งความหมายและทรงพลังด้วยงานภาพในเวลาเดียวกัน
นิทรรศการ FIREHEAD: SOUL LIBERATE เป็นก้าวสำคัญที่ทรงศีลปรารถนาจะพาผู้ชมเข้าสู่โลกกว้างใหญ่ของหัวไฟ ด้วยภาพวาดเหนือจริงที่สะท้อนความจริงให้ปรากฏบนผืนผ้าใบ และยังเป็นหมุดหมายสำคัญที่น่าจับตาอย่างยิ่ง เมื่อความเป็นจิตรกรอันเข้มข้นของเขา จะได้รับการเผยแพร่แก่สายตาผู้คน
FIREHEAD: SOUL LIBERATE
เปิดให้เข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 - 7 มกราคม 2567
ที่ RCB Galleria 2 ชั้น 2 ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก