ธีม Met Gala ในแต่ละปีบอกอะไรเราบ้าง? ปีนี้กับ “Superfine: Tailoring Black Style” เรากำลังพูดถึงแฟชั่น หรือจริงๆ แล้วกำลังตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมในสังคมอเมริกัน
ว่ากันว่า Met Gala คือที่สุดแห่งอีเว้นต์ประจำปีของวงการแฟชั่น ดารานักร้องเซเลบริตี้ต่างรู้กันว่าทุก “วันจันทร์แรกของเดือนพฤษภาคม” เขาหรือเธอ ต้องเร่หาชุดสวยงาม หรือชุดที่เล่นใหญ่ เพื่อมาสวมใส่ร่วมเดินพรมแดง และที่สำคัญคือต้องตรงธีม
นับแต่ ไดอาน่า วรีแลนด์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Vogue (ช่วงปี 1962-1971) เข้ามาพลิกฟื้นให้งาน Met Gala กลายเป็น Party of the Year ที่คนต่างเฝ้ารอ เรื่อยมาจนถึงสมัยของ แอนนา วินทัวร์ งาน Met Gala ก็ไม่ใช่แค่เวทีอวดความสวยความงาม แต่แอบซ่อนประเด็นที่โลกกำลังถกเถียงกันไว้ผ่าน “ธีม” ในแต่ละปี
ธีมปีนี้คือ “Superfine: Tailoring Black Style” ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือที่ตีพิมพ์ในปี 2009 ชื่อ “Slaves to Fashion: Black Dandyism and the Styling of Black Diasporic Identity” ของ Monica L. Miller ศาสตราจารย์แห่ง Columbia University
ธีม Met Gala ย่อมล้อไปกับพิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art ซึ่งปีนี้นำเสนอนิทรรศการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ “ความสำคัญของสไตล์ต่อการก่อตัวของอัตลักษณ์คนผิวดำในอาณานิคมแอตแลนติก” ที่แสดงออกผ่านเครื่องแต่งกาย ศิลปะ ฯลฯ
ชัดเจน ธีมปีนี้เกี่ยวกับคนดำ แต่เกี่ยวอย่างไร ? อังกฤษในศตวรรษที่ 18 สมัยที่ยังมีการค้าทาสอยู่ เจ้าทาสเกิดไอเดียอยากแสดงฐานะทางสังคมนั่นคือ อนุญาตให้ทาสผิวดำสวมเสื้อผ้าอาภารณ์ที่ดูดี ราคาสูง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “คนรับใช้ผิวดำที่ดูดี”
เมื่อพ้นยุคค้าทาส สไตล์การแต่งตัวลักษณะนี้ฝังรากเป็นวัฒนธรรมหลักของคนดำ เกิดเป็นสไตล์ที่เรียกว่า “Dandyism” หรือก็คือการแต่งตัวของสุภาพบุรุษที่เลือกหยิบชุดสูทเทเลอริ่งคัตติ้งเนียบ จะสวมหมวก ใส่สูท ผูกไทด์ ฯลฯ ตรงตามธีมเป๊ะ
แล้วธีมปีนี้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกอย่างไร ความไม่สงบในอเมริกา การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย หรือการเปิดหน้าเหยียดผิว คุณมองอย่างไรแชร์กันหน่อย
ธีมงานที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลที่เสียชีวิต
ธีมงานที่จัดขึ้นเพื่อล้อไปกับเทรนด์การแต่งตัว
ธีมงานที่จัดขึ้นเพื่อตั้งคำถามถึงประเด็นร้อนในสังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง