ลืมเก่งจนท้อใจ? มาลองใช้ กฎ 2-7-30 เทคนิคจากนักจิตวิทยาที่ช่วยเปลี่ยนความจำระยะสั้นให้กลายเป็นความจำระยะยาวอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าอะไรก็จำได้แม่นยำขึ้น
เป็นไหม เมื่อสองวันก่อนเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนั้นจบไป หรือพอดแคสต์ตอนนี้พูดเรื่องอะไรนะ สาระสำคัญคืออะไรก็ลืมซะแล้ว ทำไมความจำมันสั้นขนาดนี้กันนะ มาลองแก้ปัญหานี้ด้วยเทคนิคการฝึกจำแบบเป็นระบบด้วยกฎ 2-7-30 ดูมั้ย วิธีนี้จะช่วยฝึกสมองให้จำได้นาน จำบริบทแวดล้อมได้ และสามารถเล่าต่อให้คนอื่นฟังได้
มีงานวิชาการหลายชิ้นที่พูดถึงวิธีการจดจำของสมองไว้ได้น่าสนใจ แถมมีหลายรูปแบบมาก ๆ ยกตัวอย่างเช่น ความจำทันที นี่คือความจำสั้นที่สุด และจะเกิดขึ้นทันทีหลังได้รับข้อมูลและคงอยู่เพียงไม่กี่วินาที เช่น การจำหมายเลขโทรศัพท์ที่เราเพิ่งฟังมาเพื่อจะกดโทรออก
นานขึ้นหน่อยคือความจำระยะสั้น (short-term memory) การจำรูปแบบนี้ สมองจะประมวลผลข้อมูลชั่วคราวที่ได้รับมา เพื่อไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรับสาร สนทนา เป็นต้น มีงานวิจัยบอกว่าข้อมูลชั่วคราวจะสลายไปเองภายในระยะเวลาประมาณ 18-30 วินาที
แล้วทำไมสมองเราถึงจำข้อมูลอะไรไม่ค่อยได้กันล่ะ? วิทยาศาสตร์อธิบายไว้หลากหลายทาง อย่างแรกคือดังที่กล่าวไป ข้อมูลถ้าไม่หยิบมาใช้มันจะสลายไปเอง กับอีกส่วนคือสมองถูกสิ่งเร้าจากภายนอกรบกวน ทั้งรบกวนย้อนหลัง มีความหมายว่าข้อมูลใหม่ ๆ ที่สมองรับเข้ามา จะทำให้ความจำเกี่ยวกับข้อมูลเก่า ๆ ถูกหลงลืมไป
และในยุคที่โลกออนไลน์อยู่บนหน้าจอมือถือ เรารับข้อมูลมหาศาลตลอดเวลา แต่ถามว่าเราจำได้สักกี่เรื่องกันล่ะ งานวิจัยทางสมองเสนอว่าในหลายร้องเรื่องที่เราอ่าน คอนเทนท์ หรือข้อมูลไหนที่มีบริบท มีสถานการณ์ หรือมีสตอรี่ มีแนวโน้มว่าสมองจะจดจำได้มากกว่า เป็นวิธีเดียวกับการเล่านิทานที่อยู่คุยกับโลกมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพนั่นเอง
พูดถึงการลืม คงไม่กล่าวถึงการศึกษาของ แฮร์มันน์ แอ็บบิงเฮาส์ (Hermann Ebbinghaus) นักจิตวิทยาชาวเยอรมัน ที่ตีพิมพ์ในแวดวงวิชาการเมื่อปี 1885 ไปไม่ได้ แอ็บบิงเฮาส์เสนอว่าความจำของเรานั้นมีสิ่งที่เรียกว่า “เส้นโค้งแห่งการลืม” โดยเขาพบว่า
แต่เดี๋ยวก่อน แอ็บบิงเฮาส์ก็เสนอว่าถ้าจะพัฒนา หรือสมองให้จำได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพขึ้น ให้ลองทำตามกฎ 2-7-30 ดู วิธีจะช่วยให้สมองเรา จำข้อมูลสำคัญ บริบทแวดล้อมได้ ใครถามก็สามารถเล่ามันออกมาได้
กฎ 2-7-30 ไม่มีอะไรซับซ้อน มันก็คือวิธีการทบทวนความจำนั่นแหละ สมมติคุณจะอ่านหนังสือเล่มใหม่ ให้ทดสอบตัวเองด้วยการทบทวนเนื้อหานั้น หลังจากผ่านไป 2 วัน 7 วัน และ 30 วันกลับมาทดสอบตัวเองดูอีกที ซึ่งวิธีการทบทวนก็ทำได้หลากหลาย เราอาจพูดมันออกมา เขียนออกมาเป็น journal ก็ได้เหมือนกัน
หลังผ่านไป 2 วัน การทบทวนครั้งแรกจะค่อนข้างยาก เพราะการทบทวนนี้จะเกิดขึ้นช่วงที่ข้อมูลประมาณ 50-60% ถูกลืมไปแล้ว แต่สมองยังพอเช่ือมโยงข้อมูลได้อยู่
หลังจากผ่านไป 7 วัน เราจะจดจำ หรือคุ้นเคยกับข้อมูลเหล่านี้ได้มากกว่า 2 วันแรก สมองของเราจะเข้าไปหยิบข้อมูลในลิ้นชักออกมาอย่างเป็นระบบ และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ได้
และเมื่อผ่านไป 30 วัน สมองจะเปลี่ยนข้อมูลชุดนี้ จากที่เป็นความทรงจำระยะสั้น เป็นความทรงจำระยะยาว ซึ่งจะเก็บอยู่ในลิ้นชัก อายุก็อาจอยู่ได้นานหลายเดือน เป็นปี หรืออยู่ตลอดไปก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลนั้นสำคัญกับสมอง ตัวตน และอารมณ์ความรู้สึกของเราแค่ไหน
นี่ก็เป็นวิธีการจำที่เราหยิบมาฝากกัน ปัญหาที่ว่าอ่านแล้วจำไม่ได้ รับข้อมูลมาแต่ลืมไปแล้ว อาจหมดไปได้ ทำให้ข้อมูลนั้นกลายเป็นทรัพย์สินทางความคิด ที่ติดตัวเราตลอดเวลา และกลายเป็นคนที่มีข้อมูลในหัว เชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้สนุกสนานยิ่งขึ้น
ที่มา: Inc, studyingmachine
ข่าวที่เกี่ยวข้อง