svasdssvasds

Ghost Me Free Wifi หรือเราทุกคน...ต่างเป็นผีในเมืองเทพสร้างแห่งนี้

Ghost Me Free Wifi หรือเราทุกคน...ต่างเป็นผีในเมืองเทพสร้างแห่งนี้

หรือคนทำงานในกทม. มีฮาโลวีนทุกวัน? หนังสือ Ghost Me Free Wifi เขียนโดย สีพรำ หรือคนกรุงเทพฯ ต้องตีซี้กับผี เพื่อเอาชีวิตรอดในโลกแห่งทุนนิยม

‘กลัวผี ก็ไม่สู้ กลัวไม่มีจะแดก’ วาทะนี้เราไม่ได้คิดเอง แต่หยิบมาจาก Ghost Me Free Wifi หนังสือเล่มใหม่จาก สีพรำ (ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด นักเขียนรางวัลซีไรต์) ที่บอกเราว่าหากคุณเป็นคนจนในกรุงเทพฯ ก็มีสถานะไม่ต่างไปจากผี

Ghost Me Free Wifi หรือเราทุกคน...ต่างเป็นผีในเมืองเทพสร้างแห่งนี้

เมื่อวันก่อน รายงาน DWS Housing Affordability Review 2025 วิเคราะห์ว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ค่าเช่าที่อยู่อาศัย (อพาร์ตเมนต์ขนาด 2 ห้อง) แพงที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยของประชาชน โดยชาวกทม.ต้องใช้รายได้ถึง 79% เพื่อจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 38% ของรายได้เท่านั้น

ข่าวนี้มาได้ถูกเวลาพอดี เพราะประเด็นเรื่องค่าครองชีพ เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าเดินทาง ฯลฯ ของคนทำงานในกรุงเทพฯ นั้นคือประเด็นที่หนังสือ Ghost Me Free Wifi นำเสนอ ผ่านตัวละคร ‘ประกิต’ LGBTQ+ ชาวลำปางที่มีเหตุให้ต้องย้ายมารับราชการแถวราชเทวี ซึ่งหอพักในย่านนั้น ซึ่งค่างวดสูงมาก ประกิตกลับได้อาศัยเช่าห้องแบบฟรี ๆ เพราะ

Ghost Me Free Wifi หรือเราทุกคน...ต่างเป็นผีในเมืองเทพสร้างแห่งนี้

“นิยายเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเห็นโพสต์หนึ่งในโซเชียลมีเดีย ที่ผู้ให้เช่าประกาศว่าประกาศปล่อยเช่าห้องในย่านชานเมือง โดยมีเงื่อนไขท้าทายกลไกตลาดที่ว่าถ้าอยู่ครบหนึ่งเดือน อยู่ฟรีไปเลยหนึ่งปี ทุกความคิดเห็นใต้โพสต์นั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าห้องเช่านั้นต้องมีผีแน่นอน”

แทนที่จะเขียนว่าประกิตถูกผีหลอกอย่างไร สีพรำพาเราไปสำรวจชีวิตของประกิต ชาวเหนือคนนี้มีความสามารถพิเศษคือมองเห็นผีได้ ดังนั้น ห้องพักนั้นที่มีวิญญาณหญิงสาวร่างกายขาดครึ่ง และในช่วงตี 1 ถึงตี 3 ร่างกายส่วนล่างของเธอก็จะเดินขึ้นมายังห้องที่ประกิตอาศัยอยู่

แต่เผอิญว่าประกิตนั้นหมดเงินไปกับค่าประกันเช่าห้องนี้หมดแล้ว ทำให้ไม่ว่าจะมีเงื่อนไขใด เจอผีสางนางไม้ตนใด เขาก็ต้องอยู่ในห้องนั้นให้ได้ สิ่งที่ประกิตทำคือ เตะก้านคอผีตัวนั้น แล้วด่าเช็ดจนได้ผีเป็นเพื่อน คือเมื่อความจนหรือภาวะหืดขึ้นคอมาเยือนถึงใคร  แม้แต่ผีก็ห้ามกลัว เพราะถ้ากลัวจะไม่มีกิน

Ghost Me Free Wifi หรือเราทุกคน...ต่างเป็นผีในเมืองเทพสร้างแห่งนี้

ความบันเทิงของหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่บทแรกไปจนถึงตอนจบคือการสำรวจโลกของประกิต ที่ติดต่อสื่อสารกับผี แก้ไขปัญหาให้ผี ขณะเดียวกัน ก็ใช้ผีเป็นเครื่องมือในการเอาชีวิตในโลกแห่งทุนนิยมใจกลางกรุงเทพฯ เช่น เขียนเรื่องผีแต่งเป็นนิยายลงขายออนไลน์

แต่ที่นี่คือกรุงเทพฯ เมืองแห่งการช่วงชิงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน คนชนะเท่านั้นที่อยู่รอด สีพรำเขียนให้ผีในเรื่อง (ซึ่งมีหลายตน) ถูกมัดมือใช้ประโยชน์ และเอารัดเอาเปรียบแม้กระทั่งตายไปเป็นผีแล้วก็ตาม เช่น ขังดวงวิญญาณไว้ในห้องที่ประกิตอาศัยอยู่ ส่วนเหตุผลคืออะไรต้องลองไปอ่านกันดู

แต่หากถอยมามองในมุมที่กว้างขึ้น สีพรำให้ตัวละครหลักเป็นคนเหนือจากจังหวัดลำปาง ซึ่งตัวนักเขียนเองแม้ไม่ใช่คนเหนือโดยแท้ แต่ก็หลงใหลในวัฒนธรรมของชาวเหนือ ดังที่ถูกนำเสนอออกมาในหนังสือ กี่บาด ที่คว้ารางวัลซีไรต์ในปี 2567 ไปครอง

อาจมองได้ว่าผู้เขียนกำลังวิพากษ์กรุงเทพฯ อันภาพสะท้อนของแนวคิดรวมศูนย์ พี่น้องต่างจังหวัดทั่วสารทิศหากอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากเลื่อนชนชั้นทางสังคม ก็ต้องเข้ามาตามหาความฝันในมหานครแห่งนี้ ซึ่งเป็นสัจธรรมโดยแท้ ที่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจของตัวเองได้

“มันคือการเคลื่อนย้าย เคลื่อนจากชีวิตไปสู่ความตาย เคลื่อนจากขาดแคลนไปสู่มั่งมี เคลื่อนจากต่างจังหวัดไปสู่เมืองใหญ่ น่าสนใจทีว่าในสถานะพื้นที่หนึ่ง เราอาจจะเกิดมาพร้อมความพิเศษมากมาย มีความหวังความฝันยิ่งใหญ่ มีคนรัก หรือถึงขั้นมีคนเคารพกราบไหว้”

“แต่ถึงถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงเคลื่อนย้าย มาสุมรวมกันในเมืองใหญ่ที่มีคนมีพิเศษนับล้าน ความพิเศษนั้นกลับเจือจางหายไป และค่อย ๆ กลายเป็นผีที่โปร่งเบาไร้ตัวตนในเมืองนี้”

ทุกคนมีคำตอบของตัวเองอยู่แล้วว่า ‘ผี’ หมายถึงอะไร แม้จะอยู่ในกรอบคิดของความเป็นนิยาย แต่ระหว่างบรรทัดเหมือนผู้เขียนแนะนำอย่างเคารพว่าทำทุกอย่างที่ทำให้รวย เพราะสิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นคือ ‘ความจน’ ทำได้ไหมล่ะ...หรือต้องมีความสามารถพิเศษ เช่น คุยกับผีรู้เรื่องถึงจะรอดจากมหานครแห่งนี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอีกหนึ่งรสชาติจากนักเขียน Ghost Me Free Wifi คือนิยายตลบขบขันจิกกัดสังคม ที่แอบแฝงประเด็นเรื่องการปะทะกันของกรุงเทพฯ หรือวัฒนธรรมของชาวเหนือ ไม่ว่าจะเป็นผี หรือเทพองค์ต่าง ๆ และเล่าออกมาชนิดชวนหัว และคงไม่มีคำใดที่จะสรุปใจความสำคัญของเนื้อหานี้ได้ดีเท่ากับประโยคนี้ของสีพรำ นั่นคือ

“เราทุกคนต่างเป็นผี ผีที่ลืมไปแล้วว่าตัวเองเคยเป็นใคร”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related