เกม Anno 2070 สวมบทกอบกู้มนุษยชาติในวันที่โลก "น้ำท่วม" ไปเกินครึ่งโลก

Anno 2070 เกมสร้างเมือง-บริหารทรัพยากร โดยเป็นเรื่องราวในปี 2070 วันที่สภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายจนหมดและน้ำท่วมพื้นที่ส่วนใหญ่ของผิวโลก ที่ราบสูงในอดีตกลายเป็นพื้นราบเหนือผิวน้ำผืนใหม่ให้เหล่ามวลมนุษย์ที่เหลือรอดพัฒนาแล้วอยู่รอดต่อไปในโลกใบเดิมที่ไม่เหมือนเดิม

ตัวเกม Anno 2070 ปล่อยโดยค่ายเกม Ubisoft (ยูบิซอฟต์) เมื่อวันที่ 17 พฤษจิกายน 2554 ได้รับการพัฒนาโดย Related Designs และ Blue Byte เป็นเกมภาคต่อตระกูล Anno เกมสร้างเมือง-บริหารทรัพยากร ในยุคต่าง ๆ

ภายในเกม Anno 2070 แผนที่จะแบ่งเป็นเกาะต่าง ๆ โดยแต่ละเกาะจะปลูกผักได้ไม่เหมือนกัน และมีทรัพยากรบางอย่างไม่เหมือนกัน เช่น ไม่มีน้ำมัน ไม่มียูเรเนียม เป็นต้น ดังนั้นผู้เล่นเมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งก็ต้องขยายเกาะใหม่เพิ่มขึ้นเพื่อนำทรัพยากรจากอีกเกาะมาเลี้ยงคน

เอาชีวิตรอดในวันที่โลกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย

เมื่อเราเริ่มต้นเข้าเกมเราสามารถเลือกได้ 2 ฝ่าย คือฝั่ง ECO หรือฝั่งรักษ์โลก และ Tycoon หรือฝั่งนิยมอุตสาหกรรม ซึ่งการเล่นของทั้ง 2 ฝ่ายในช่วงแรกจะแตกต่างกันพอสมควร คือฝั่งรักษ์โลก ในเกาะของเราก็ต้องมีค่า Eco-Balance (สมดุลสิ่งแวดล้อม) อยู่เสมอ เพราะถ้าเกาะเรามีแต่ฝุ่นควัน ประชากรก็จะไม่มีความสุขและจ่ายภาษีน้อย

ส่วนฝั่งนิยมอุตสาหกรรม เป็นฝั่งที่ร่วมมือกับบริษัท Global Trust ซึ่งการเล่นเป็นฝั่นนี้ก็จะเน้นอุตสาหกรรมตาม โรงงาน เหมืองใหญ่ ๆ ควันเยอะ ๆ Eco-Balance (สมดุลสิ่งแวดล้อม) จะติดลบเป็นร้อย ๆ ก็ได้ โดยภายในเกมเกาะที่ธรรมชาติอุดมสมบรูณก็จะเขียว ๆ สวย ๆ ส่วนเกาะที่ธรรมชาติถูกทำลายก็จะหม่น ๆ เทา ๆ

เรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

• สงครามเกมเถื่อน จากยุค แก้ Crack สู่ยุคเกมแท้ ราคาถูก
• Call of Duty จากเกมสงคราม สู่สงครามการค้าระหว่าง Sony และ Microsoft
• ทำไมเกมเมอร์ไม่อิน Metaverse ด้าน Phil Spencer บอกเขาอยู่กันมาตั้งนานแล้ว

แต่จะบอกว่าเกมนี้เกาะใครเกาะมัน แยกสถานะกัน เกาหนึ่งอาจสภาพธรรมชาติย่ำแย่ ก็ไม่ได้แปลว่าเกาะใกล้ ๆ จะแย่ไปด้วย แต่ข้อเสียของ ธรรมชาติที่ถูกทำลายคือ พืชผักปลูกไม่ขึ้น เพราะแม้จะนิยมอุตสาหกรรม ชาวบ้านก็ยังต้องกินอาหารอยู่ดี ซึ่งอาหาร-ของฟุ่มเฟือยบางอย่างก็ยังต้องอาศัยการปลูกผักอยู่ดี

สุดท้ายไม่ว่าเราเลือกฝั่งไหน ก็ต้องเล่นเป็นอีกฝั่งอยู่ดี เพราะเมื่อถึงกลางเกมจะมีทรัพยากรบางอย่างที่ต้องใช้เทคโนโลยีของอีกฝ่ายในการก่อสร้าง เช่นต่อเรือ หรือสร้างอาวุธสงคราม

ธรรมชาติพังไม่ได้แปลว่ากู้คืนไม่ได้

แม้เกาะเราสภาพอากาศจะย่ำแย่ แต่ภายในเกมก็มีเครื่องปรับสภาพสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องกำจัดขยะ หรือเครื่องปล่อยโอโซน แม้จะกินไฟไปสักหน่อยก็ตาม

เล่น ๆ ไป ฝ่ายที่ 3 ผุดขึ้นมา

พอไปถึงกลางเกมเราเล่นเป็นทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว จะมีฝ่ายที่ 3 ผุดขึ้นมา นั่นคือกลุ่มนักวิจัยซึ่งทำหน้าที่ในการพัฒนาไอเทมเพิ่มศักยภาพเครื่องจักรหรือคุณภาพชีวิตในเกาะนั้น ๆ แต่การจะเอาใจนักวิจัยก็ไม่ง่าย เพราะของแต่ละอย่างที่ใช้ ทั้งแพงและใช้ทรัพยากรจำนวนมาก

คุมบนบกว่ายากแล้ว ใต้น้ำยากกว่า

เกม Anno 2070 มีภาคเสริมชื่อ Deep Ocean ซึ่งใต้น้ำมีทรัพยากรที่นักวิจัยใช้ เช่น สาหร่าย แร่เพชร น้ำมันดิบ เป็นต้น ประเด็นคือ เครื่องจักรใต้น้ำ มีค่าใช้จ่ายสูงสุด ๆ ดังนั้นถ้าบริหารคนบนบกให้มีความสุขจ่ายภาษีเยอะ ๆ ไม่ได้ก็มีแต่เจ๊งเท่านั้น

นอกจากนี้ในเกมยังมีอุปสรรคต่าง ๆ ให้ใช้ชีวิตยากขึ้นเช่น โรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนใต้ผิวโลก ระเบิด ทำซึนามี ถล่มเกาะใกล้ ๆ , โจรสลัดนักปล้นเรือ หรือ NPC คู่แข่งที่จ้องจะเล่นคุณ

สุดท้ายจากประสบการณ์ของ ต๋า สปริงนิวส์ กับ เกือบ 150 ชั่วโมงในการเล่น ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว จนมาเปิดเล่นในปี 2565 เป็นเกมที่ลับคมสมองได้ดี ฝึกการคิดแบบเป็นชั้นเชิงและเป็นระเบียบได้ดี แต่ข้อเสียคือเกมนี้เปิดแล้วลุกยาก เพราะเกม ไม่มีจุดจบ นั่นเอง

แม้วันนี้ธารน้ำแข็งเรายังอยู่ และ 2070 อาจดูไกลเกินเอื้อม แต่เชื่อว่าวันหนึ่งโลกของเราอาจเลวร้ายกว่าในเกมแน่ถ้าเราไม่หันมารักษ์โลกตั้งแต่วันนี้