“หอมนสิการ” แหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงวัฒนธรรมของ จ.สระบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 90 นาที สถานที่แห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุ สัมผัสความสวยงาม และความสุขสงบที่แท้จริงจากภายใน ให้งอกงามในจิตใจ สามารถนำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้
สระบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายและน่าสนใจทั้งด้านพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ ประเพณี และ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิเช่น วัดพระพุทธบาท ถ้ำนาคา วัดแก่งคอย สวนพฤกษศาสตร์พุแค ตลาดหัวปลี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นต้น และอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ สามารถเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับได้ภายในวันเดียว
ในอีกไม่นาน จะมีการเปิด “หอมนสิการ” แหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงวัฒนธรรม จังหวัดสระบุรี ตั้งอยู่เบื้องหน้าเทือกเขาพระพุทธบาทน้อย อำเภอแก่งคอย โดยมูลนิธิโนอิ้ง บุดด้า เพื่อการปกป้องพระพุทธศาสนา ได้ดำเนินก่อสร้างตกแต่งและจัดทำนิทรรศการด้านในที่ใช้เวลาถึง 5 ปี เสร็จสมบูรณ์แล้วและพร้อมจะเปิดให้พุทธศาสนิกชนและประชาชนทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชมหอมนสิการ เป็นหอประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปพระบรมโลกนาถ ภาพปักพระบรมโลกนาถ และจัดแสดงนิทรรศการร่วมสมัย “จำลองมรรคาและคำสอนของพระบรมศาสดา” เพื่อการสืบสานธรรมและปกป้องพระเกียรติของพระบรมศาสดา และปลุกจิตสำนึกที่ดีงามให้แก่ปวงชน
หอมนสิการ สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอันวิจิตรโอบล้อมด้วยวิวเทือกเขาสุด Unseen จากความทุ่มเทของอาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกลและทีมงาน ในการออกแบบอาคารหอมนสิการให้มีความสง่างาม ทว่าคงความร่วมสมัย ยังจิตให้ผู้พบเห็นเกิดความนอบน้อมต่อพระบรมศาสดาอย่างสูงสุด และเพิ่มความอ่อนช้อยวิจิตรบรรจงด้วยลวดลายปูนปั้นหัวเสา หน้าบัน ที่ออกแบบผูกลายขึ้นใหม่ จากศิลปะอินเดีย วิกตอเรียและสุโขทัย โดยคุณนาคนิมิตร สุวรรณกูฏ ศิลปินและนักออกแบบผู้มีชื่อเสียง เพื่อเทิดพระเกียรติแห่งพระบรมศาสดา และการปกป้องพระพุทธศาสนาให้อยู่สืบไปถึง 5,000 ปี
การเยี่ยมชมหอมนสิการ เริ่มจากการนิทรรศการ “จำลองมรรคาและคำสอนของพระพุทธเจ้า” “Journey to the Life of Buddha” ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยงานศิลปะร่วมสมัย ภาพ แสง สี เสียงบรรยาย และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ ให้ได้ซึมซับผ่านทั้ง 5 ประสาทสัมผัส นำพาผู้เข้าชมย้อนสู่ครั้งพุทธกาล บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าชายสิทธัตถะที่ทรงเกิดมาอย่างสมบูรณ์พร้อม แต่กลับมีคำถามในใจถึงความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิต หนทางแห่งการพ้นจากความทุกข์ ทรงมีความพากเพียรและความเสียสละอย่างยิ่งยวดกว่าจะพบทางแห่งธรรมอันสูงสุด ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พร้อมเหตุการณ์ในปัจจุบันที่รายล้อมชีวิตจริง ให้ทุกท่านได้พิจารณาโดยแยบคายตามหลักโยนิโสมนสิการ ซึ่งสารธรรมคำสอนที่แฝงอยู่ในงาน อาจปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา ให้งอกงามในจิตใจ สามารถนำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้
จากนั้นเข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุรวมทั้งสิ้น 23 พระองค์ที่เสด็จมาด้วยพุทธปาฏิหาริย์ใน 3 วาระ พระพุทธรูปพระบรมโลกนาถองค์สีทองเนื้อสัมฤทธิ์ปิดด้วยทองคำแท้ และภาพปักพระบรมโลกนาถ ศิลปะงานปักมือ 651,000 ฝีเข็ม ทุกฝีเข็มบริกรรม “นิพพาน” ตลอดระยะเวลา 8 เดือน ณ หอจัตุรัส ที่งดงามอร่ามด้วยสีทองตัดกับผ้าไหมสีแดง เป็นผ้าไหมแท้ทอโดยบริษัท Antico Setificio Fiorentino จากเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลี ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1786 (พ.ศ. 2329) กว่า 236 ปี ที่ทอผ้าไหมให้ทั้งพระราชวังเคลมลิน และพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซี (UFFIZI) สถานที่จัดแสดงงานศิลปะอันเลื่องชื่ออย่าง The Birth of Venus โดยหอมนสิการเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ได้รับเกียรติจากตัวแทนของบริษัทเข้าพบ
ด้านนอกหอมนสิการ มีอาคารจัดแสดง นิทรรศการเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องต่อพระพุทธศาสนา “Spiritual Life” ซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ในหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า หลักการประพฤติปฏิบัติที่ถูกต้องต่อพระบรมศาสดา และพระพุทธสัญลักษณ์ นอกจากนี้มี อาคารสอนและปฏิบัติสมาธิ โดยอาจารย์สอนสมาธิ จัดให้มีกิจกรรมสอนฝึกนั่งสมาธิเบื้องต้นให้กับผู้ที่สนใจ สามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติด้วยตนเองที่บ้านได้ เพื่อปลุกจิตตื่นรู้อันเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าถึงทางแห่งการพ้นทุกข์จากสังสารวัฏนี้ได้
ผู้ที่มาเยี่ยมชมหอมนสิการ จะได้รับความซาบซึ้งอิ่มเอมใจ อาจพบความสุขสงบที่แท้จริงจากภายใน โดยไม่ต้องแสวงหาจากภายนอก สามารถนำสารธรรมคำสอนที่แฝงอยู่มาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตประจำวันได้ และได้รับความรู้และแนวทางการปฏิบัติต่อพระบรมศาสดาที่ถูกต้องเหมาะสม
หอมนสิการจะจัดงานพิธีสมโภชเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 กันยายน 2565 เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงวัฒนธรรมของ จ.สระบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 90 นาที
ขอเชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสกับธรรมะ ธรรมชาติ ณ หอมนสิการ พิมานสถานแห่งความนอบน้อมสำนึกยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า