svasdssvasds

รวมหนัง ซีรีส์ ไว้นอนดู COUNTDOWN 2024 ต้อนรับปีใหม่ 2567 สนุกสุดเซอร์ไพรส์

รวมหนัง ซีรีส์ ไว้นอนดู COUNTDOWN 2024 ต้อนรับปีใหม่ 2567 สนุกสุดเซอร์ไพรส์

เตรียมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2567 กับ Prime Video ด้วย 10 หนังและซีรีส์สนุกสุดเซอร์ไพรส์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน และไม่ควรพลาดซักเรื่อง

หนังและซีรีส์สนุกสุดเซอร์ไพรส์ นอนดู COUNTDOWN 2024 

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ ใครที่นอนอยู่บ้าน COUNTDOWN 2024 เข้าสู่ปีใหม่ 2567 และกำลังหาอะไรดูช่วงหยุดยาว Prime Video ขอแนะนำหนังและซีรีส์ 10 เรื่องเยี่ยมที่คุณอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาด เราจัดให้ครบรสหลากอารมณ์ สนุกไม่ซ้ำวัน…ถ้าพร้อมแล้วมาเตรียมนับถอยหลัง ไปด้วยกัน

10. Beautiful Boy

หนังดราม่าจับใจขายการแสดง สร้างจากบันทึกความทรงจำขายดี ปลุกแรงใจในวันเจ็บปวด

Beautiful Boy บอกเล่าประสบการณ์อันเปี่ยมไปด้วยความปวดร้าวและสร้างแรงบันดาลใจของ ‘นิค เชฟฟ์’ เด็กหนุ่มอนาคตไกลที่ทั้งเรียนเก่ง เป็นนักกีฬา เป็นนักกิจกรรมตัวยง และยังมีพรสวรรค์ด้านศิลปะอันโดดเด่น แต่แล้วทุกสิ่งกลับต้องพังทลายลงเพราะเขาไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด นี่คือเรื่องราวการต่อสู้อย่างสุดหัวใจของคุณพ่อและครอบครัว ที่ช่วยซัพพอร์ตจิตใจให้นิคข้ามผ่านความสิ้นหวัง และกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้

ทำไมต้องดู

ผลงานจากทีมโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัล Academy ผู้สร้างภาพยนตร์คุณภาพ อาทิ 12 Years of Slave และ Moonlight แถมยังนำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง Timothée Chalamet ที่มีผลงานดังออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ร่วมกับผู้รับบทพ่ออย่าง Steve Carell ที่พิสูจน์ให้เราเห็นว่านี่คือตัวจริงของวงการที่เอาอยู่ทั้งบทดราม่าเคล้าน้ำตา ไม่ใช่แค่บทเรียกเสียงฮาที่หลายคนคุ้นเคย

Beautiful Boy

9. Bottoms

หนังวัยรุ่นไฮสคูลตลกร้าย แอ็กชันเลือดสาด แปลกประหลาด น่ารักกุ๊กกิ๊ก อกหักรักคุด ทะลึ่งตึงตัง

เรื่องต่อไปที่จะแนะนำนอนอยู่บ้าน COUNTDOWN 2024 เข้าสู่ปีใหม่ 2567 เพลินๆ เป็นเรื่องราวของสองนักเรียนไฮสคูลผู้ไม่ป๊อป ที่ก่อตั้งชมรมไฟต์คลับฉบับหญิงเพื่อหวังสร้างความประทับใจและแอ้มเชียร์ลีดเดอร์ให้ได้ ปรากฏว่าแผนเพี้ยนๆ ของพวกเธอดันได้ผล แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้พวกเธอเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งเหยิงเกินคาดคิด เพราะทั้งสองคนต้องรับมือกับแก๊งอเมริกันฟุตบอลสุดโฉดจากโรงเรียนคู่อริ ที่พร้อมซัดหน้าทุกคนที่ขวางทาง

ทำไมต้องดู

คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า นี่คือหนังวัยรุ่นวัยมันส์แบบตลกเสียดสี ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และจัดเต็มครบทุกอารมณ์ นอกจากนี้ ใครที่ติดอกติดใจเสน่ห์เหลือร้ายมาดผู้ดีอังกฤษของ ‘เจ้าชายเฮนรี่’ จากหนังรักจั๊กจี้หัวใจเรื่อง Red, White & Royal Blue ที่รับบทโดยนิโคลัส กาลิตซีน ในเรื่องนี้คุณจะได้เห็นเขาในมุมที่แตกต่างแบบคนละขั้ว ด้วยบทนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ที่ทั้งร้ายทั้งบ๊อง น่าหมั่นไส้แต่น่าก็น่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน

Bottoms

8. Suspiria 

หนังจิตวิทยา-ลุ้นระทึก ที่จะเต้นจนพาหลอนฝังจิต ขยับท่วงท่าจนสถิตย์ฝังใจ

ในปี 1977 ซูซี่ แบนเนี่ยน เดินทางมาสมัครเข้าคณะบัลเลต์ชื่อดัง พรสวรรค์ในการเต้นและความมุ่งมั่นปนทะเยอทะยานของเธอเตะตาทุกคน โดยเฉพาะหัวหน้าผู้ฝึกสอนที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเธอมากขึ้น แต่แล้วหลังจากการมาของซูซี่ กลับเกิดเหตุการณ์ประหลาดที่หญิงสาวในคณะบัลเลต์ทยอยหายตัวไปอย่างลึกลับทีละคน ๆ อะไรคือสาเหตุและอะไรคือความมืดมิดที่แฝงอยู่ภายใต้โฉมหน้าของคณะบัลเลต์แห่งนี้กันแน่?

ทำไมต้องดู

นอกจากจะได้ ดาโกต้า จอห์นสัน กับ ทิลดา สวินตัน มารับบทนำ และยังได้ฉายรอบปฐมทัศน์ในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสแล้ว คอหนังสยองขวัญตัวจริงจะรู้ว่า Suspiria ไม่ใช่หนังใหม่ แต่เป็นเวอร์ชั่นรีเมคจากหนังสยองขวัญระดับตำนานในปี 1977 โดย ลูกา กัวดาญิโน (Call Me by Your Name) เผยว่า เขาเริ่มมีความคิดที่จะรีเมคภาพยนตร์เรื่องนี้มาตั้งแต่อายุ 14 ปี และพูดถึงแผนการนี้กับ กับทิลดา สวินตัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน หรือประมาณเกือบ 30 ปีก่อนจะได้สร้างหนังจริงๆ เสียอีก!

Suspiria 

7. The Terminal List

ซีรีส์แอ็กชันล้างแค้นสุดเข้มข้น นำแสดงโดย คริส แพรตต์

นาวาตรีเจมส์ รีซ อดีตทหารหน่วยซีลได้รับอิสระจากกองทัพให้กลับบ้านมาใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างสงบสุขกับลูกและภรรยา หลังจากที่เพื่อนทุกคนเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจ เหลือเพียงเขาคนเดียวที่มีชีวิตรอด แต่หลังจากสงบอยู่ได้ไม่นาน เจมส์ตัดสินใจจับปืนอีกครั้ง แล้วออกคิดบัญชีแค้นด้วยการสืบหาตัวการลึกลับที่อยู่เบื้องหลังการตายของเพื่อนทหารในสังกัด

ทำไมต้องดู

นอกจากฉากแอ็กชันสุดเดือดที่เต็มไปด้วยฉากกระแทกหมัดอย่างดุดัน และนิ้วลั่นไกปืนไม่มียั้ง The Terminal List ยังมาพร้อมกับพล็อตเรื่องเข้มข้นหักมุม เมื่ออดีตเจ้าหน้าที่หน่วยซีลต้องฉายเดี่ยวเพื่อล้างแค้น พร้อมกับงัดทุกสกิลที่ฝึกฝนจากสมรภูมิรบมาใช้ตามล่าทุกคนที่เกี่ยวข้องจนสุดขอบนรก

The Terminal List

6. Yellowjackets

ซีรีส์วัยรุ่นกินคน แนวระทึกขวัญเอาตัวรอด ที่ฮิตระเบิดในอเมริกาตั้งแต่ฉายซีซั่นแรก

ซีรีส์จะเล่าสลับเหตุการณ์ในอดีต-ปัจจุบัน ของทีมนักฟุตบอลหญิงประจำโรงเรียนฝีมือดีจนได้ไปแข่งระดับประเทศ แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเครื่องบินของพวกเธอดันไปตกกลางป่าห่างไกลผู้คน จะขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้ อาหารก็หายาก เลยต้องปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวขึ้นมาเพื่อเอาตัวรอด นอกจากเรื่องความลำบากในการหาอาหารแล้ว ยังมีเรื่องลึกลับชวนขนหัวลุกเกิดขึ้นในป่านี้อีก เพราะอยู่ดีๆ ก็มีสัญลักษณ์ประหลาดปรากฏขึ้นรอบพื้นที่ที่พวกเธออยู่ แถมเพื่อนในกลุ่มก็เริ่มมีอาการเหมือนผีเข้า ส่วนไทม์ไลน์ปัจจุบันจะเล่าเรื่องราวของผู้รอดชีวิตในช่วง 25 ปีให้หลัง เมื่อพวกเขาพบว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในป่ายังไม่จบ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อผู้รอดชีวิตคนนึงตายอย่างปริศนา แล้วใครกันอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?

ทำไมต้องดู

ด้วยเทคนิคการเล่าเรื่องของซีรีส์ ที่จะเล่าสลับเหตุการณ์อดีต-ปัจจุบัน ทำให้น่าติดตาม ใครที่ชื่นชอบซีรีส์แนวลึกลับสยองขวัญ และแนวเอาตัวรอดกลิ่นอายแบบ Lost ขอบอกเลยว่า Yellowjackets เป็นอีกหนึ่งผลงานที่คุณไม่ควรพลาด เพราะตัวซีรีส์ได้รับกระแสดีมาก และตอนนี้สร้างออกมาทั้งหมด 2 ซีซั่นแล้ว

Yellowjackets

5. The Devil’s Hour

ซีรีส์ไซไฟ-ฆาตกรรมสัญชาติอังกฤษ กับพล็อตสุดซับซ้อน ห้ามโดนสปอยล์ตอนจบเด็ดขาด

ว่าด้วยเรื่องราวของ ‘ลูซี่’ แม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเลี้ยงลูกชายที่ไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้ แค่เลี้ยงลูกก็เหนื่อยแล้ว เธอยังต้องเจอกับเรื่องแปลกๆ ในบ้าน ที่ทำให้ดูเหมือนว่าไม่ได้มีแค่เธอกับลูกเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ แถมทุกคืนเธอจะสะดุ้งตื่นมาตอน 3:33 น. พร้อมกับภาพนิมิตที่เหมือนเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง เท่านั้นยังไม่พอ เพราะเรื่องประหลาดทั้งหมดที่เจอ ดันมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง ที่ฆาตกรอ้างว่าทำไปเพราะ “อยากหยุดพวกคนเลวไม่ให้ทำชั่วในอนาคต”

ทำไมต้องดู

ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างการผูกเรื่องที่สดใหม่ชวนติดตาม และฝีมือการแสดงอันน่าทึ่งจากเหล่านักแสดง โดยเฉพาะ เจสสิก้า เรน ผู้รับบทลูซี่ ส่งให้ซีรีส์อาชญากรรมเหนือธรรมชาติชวนขนหัวลุกเรื่องนี้ทำคะแนนรีวิวสูงได้ถึง 95/100 บน Rotten Tomatoes

The Devil’s Hour

4. Them

เรื่องสยองขวัญของคนผิวดำ ที่แฟนหนังสยองขวัญแนว Black Horror อย่าง Get Out และ Us ไม่ควรพลาด

มินิซีรีส์ที่จะพาเราไปพบกับความน่ากลัวของการใช้ชีวิตในอเมริกาในฐานะคนผิวสี เรื่องราวเกิดขึ้นในยุค 1950s ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงของการเหยียดผิว ครอบครัวผิวดำตระกูล เอมอรี่ ย้ายจากนอร์ทแคโรไลนาไปยังละแวกบ้านในลอสแอนเจลิสที่มีแต่คนผิวขาวในช่วงการอพยพครั้งใหญ่ ก่อนที่บ้านอันสวยงามของครอบครัวนี้ต้องกลายเป็นสนามรบและขุมนรก เมื่ออำนาจชั่วร้าย ทั้งจากเพื่อนบ้านและเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ ตามมาหลอกหลอน ทำร้าย และทำลายครอบครัวนี้ไม่เว้นแต่ละวัน จนแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี

ทำไมต้องดู

นี่คือซีรีส์ที่สะท้อนเรื่องราวการเหยียดผิว ความเกลียดชังและความอาฆาตพยาบาทของมนุษย์เพียงเพราะสีผิวที่แตกต่าง ในรูปแบบระทึกขวัญ สุดโต่ง เลือดเย็น ชวนให้คิดว่าบางทีเรื่องลึกลับขนหัวลุก ก็อาจไม่โหดร้ายเท่าสิ่งที่มนุษย์ที่ทำต่อมนุษย์ด้วยกัน

Them เรื่องสยองขวัญของคนผิวดำ

3. Undone

ซีรีส์แอนิเมชัน ไซไฟล้ำๆ ดราม่าเคล้าน้ำตา จากผู้สร้าง BoJack Horseman

เรื่องราวชีวิตของ ‘อัลม่า’ ครูอนุบาล ชีวิตพังๆ ที่ขับรถอยู่ดีๆ ก็เห็นพ่อที่ตายไปแล้วโผล่มากลางถนน จนทำให้เธอเกิดอุบัติเหตุรถชน แต่ในเรื่องร้ายยังมีเรื่องดี(?) เพราะเธอสามารถคุยกับผีพ่อได้ และยังได้พลังพิเศษที่สามารถข้ามไปจุดไหนของห้วงเวลาก็ได้กลับมาด้วย โดยมีผีพ่อมาช่วยฝึกฝีมือ เพื่อให้เธอย้อนเวลา กลับไปไขปริศนาการตายของเขา

ทำไมต้องดู

นอกจากเรื่องที่ล้ำแล้ว เทคนิคที่ใช้ทำแอนิเมชันเรื่องนี้ก็ล้ำพอกัน เพราะน้อยเรื่องที่จะใช้เทคนิค Rotoscope (ถ่ายจากคนแสดงจริงและวาดทับทีละเฟรม) มาใช้ในงานซีรีส์แบบนี้ โดยซีรีส์ Undone มีทั้งหมด 2 ซีซั่น ซีซั่นละ 8 ตอน

Undone ซีรีส์แอนิเมชัน ไซไฟล้ำๆ ดราม่าเคล้าน้ำตา

2. Fleabag

ซีรีส์ตลกที่ดูไปดูมา ทำไมน้ำตาหยดนะ

ซีรีส์เล่าถึงชีวิตของหญิงสาวเจ้าของร้านคาเฟ่ ที่พยายามสู้ชีวิต แต่ชีวิตก็ขยันสู้กลับ ทั้งโดนแฟนบอกเลิก เพื่อนสนิทเพิ่งตาย น้องสาวก็ประสบความสำเร็จมากกว่าเธอ มีแม่เลี้ยงก็ดันไม่ถูกกัน แต่ถึงจะเจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะ เธอก็ยังพยายามตลกกลบเกลื่อนใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ เรียกได้ว่าข้างนอกสดใส ข้างในฮือๆ Fleabag มาพร้อมกับการเล่าเรื่องแบบ Breaking the Fourth Wall ที่ตัวละครจะหันมาคุยกับคนดู ประหนึ่งว่าเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจริงๆ โดยซีรีส์มีทั้งหมด 2 ซีซั่น ซีซั่นละ 6 ตอนสั้นๆ ใช้เวลาไม่นาน ลองกดมาดูสักตอน อาจจะเผลอดูยิงยาวจนจบเลย

Fleabag

ทำไมต้องดู

การันตีความดีงามกวาดรางวัลจากหลายสำนัก และได้ Rotten Tomatoes 100% เต็ม เรียกว่าไม่ดูไม่ได้แล้ว! นอกจากนี้ ยังเขียนบทและแสดงเองโดย Phoebe Waller-Bridge นางเอกของเรื่อง ทำให้ถ่ายทอดออกมาได้ตรงใจตามบท แถมยังโดดเด่นด้วยอารมณ์ขันที่มีสไตล์เฉพาะตัวสุดๆ และด้วยเนื้อเรื่องที่ตัวละครผ่านความเฮงซวยในชีวิตมานับไม่ถ้วนแต่กลบเกลื่อนไว้ภายใต้มุกตลกแบบหน้าตาย ก็ชวนให้เราหันกลับมาโอบกอดความผิดพลาดของตัวเอง ในวันที่อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยเหมือนกัน

1. Nine Days

หนังแฟนตาซี-ไซไฟกินใจ ว่าด้วยเรื่องโลกหลังความตาย จะไปเกิดทั้งที ยังต้องสอบ

Nine Days คือภาพยนตร์ที่จะชวนให้ผู้ชมไปทบทวนชีวิตด้วยเนื้อเรื่องอันทรงพลัง กับตัวละคร ‘วิล’ เทวดาผู้ดูแลโลกระหว่างความเป็นและความตาย เขามีหน้าที่ที่ต้องคัดเลือกวิญญาณให้ไปเกิด ด้วยการทดสอบนาน 9 วัน แต่จะมีวิญญาณเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่จะได้ไปเกิด แต่เมื่อวิลได้เจอกับวิญญาณดวงใหม่ที่ชื่อ ‘เอ็มม่า’ เขาเริ่มได้มองเห็นอีกมุมเกี่ยวกับชีวิต หรือว่านี่อาจจะเป็นบททดสอบของวิลก็ได้?

ทำไมต้องดู

ไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่า นี่คือหนังระดับมาสเตอร์พีซ ที่ลึกซึ้ง ตราตรึง และไม่เหมือนใคร จนหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในหนังที่ดีที่สุดที่เคยดูในชีวิต เพราะตัวหนังชวนให้ใคร่ครวญถึงความหมายของชีวิต และเตือนให้มองเห็นสิ่งเล็กๆในแต่ละวัน การันตีด้วยรางวัล Waldo Salt Screenwriting Award: U.S. Dramatic จากเทศกาล Sundance Film Festival

Nine Days

นอกจากเนื้อหาแนะนำ 10 เรื่องที่คัดมาฝากให้นอนอยู่บ้าน COUNTDOWN 2024 เข้าสู่ปีใหม่ 2567 มีความสุขแบบไม่ต้องเดินทางกันแล้ว ยังสามารถติดตามลิสต์หนังและซีรีส์แบบอัดแน่น ทั้งหมด 50 เรื่อง ที่แนะนำโดย 50 เพจหนังดังกันได้ ที่ Facebook: Prime Video TH

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

related