“Princess Mononoke ตำนานแอนิเมชัน Studio Ghibli กลับสู่จอใหญ่
“ชวนกลับคืนสู่ป่าแฟนตาซี Princess Mononoke (เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร) ตำนานแอนิเมชันกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์ไทยอีกครั้ง” 11-17 dันยายน นี้ !
เนื่องในโอกาสที่ภาพยนตร์แอนิเมชันระดับตำนาน PRINCESS MONONOKE (เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร) ของสตูดิโอจิบลิ ผลงานกำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) จะกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งระหว่างวันที่ 11–17 กันยายนนี้ เราขอชวนทุกคนออกเดินทางกลับสู่ป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อสัมผัสผลงานที่ยังทรงพลังแม้ผ่านมากว่า 25 ปี
แต่ Princess Mononoke (เจ้าหญิงโมโนโนเกะ) ยังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลงานแอนิเมชันที่น่าพิศวงและทรงพลังที่สุดที่เคยสร้างมา ผลงานชิ้นเอกจากสตูดิโอจิบลิและฝีมือกำกับของ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) เรื่องนี้ผสานความงดงามทางศิลปะเข้ากับเรื่องราวอันหนักแน่นได้อย่างลงตัว ทั้งภาพวาดมือที่ละเอียดอ่อน ดนตรีที่ตราตรึง และธีมสิ่งแวดล้อมที่เฉียบคม
แม้ผ่านมากว่า 25 ปี Princess Mononoke ยังคงสะกดผู้ชมด้วยโลกแฟนตาซีทรงคุณค่า หัวใจสำคัญของเรื่องคือ “ซัน” หญิงสาวที่ถูกเลี้ยงดูโดยหมาป่าเทพเจ้าโมโร เธอเติบโตขึ้นมาในผืนป่าในฐานะลูกของเทพหมาป่า ไม่ใช่มนุษย์ ซันจึงเป็นตัวแทนของ “ธรรมชาติ” ที่ถูกผลักดันให้โกรธเกรี้ยวจากการรุกรานของมนุษย์ เธอเต็มไปด้วยความดุเดือด เด็ดขาด และเกลียดชังผู้คนที่ทำลายผืนป่า แต่ความงามของตัวละครนี้คือซันไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความโกรธ เธอยังเป็นเด็กสาวที่มีหัวใจ มีความเปราะบาง มีความรักต่อสัตว์และผืนดินที่เลี้ยงดูเธอ
อีกหนึ่งจุดเด่นคือโลกของเรื่องที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ผืนป่าศักดิ์สิทธิ์ที่มีเทพเจ้าสัตว์น่าเกรงขามตั้งตระหง่านเคียงคู่กับเมืองเหล็ก (ที่อบอวลด้วยควันจากอุตสาหกรรมและผู้คนชายขอบที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด
เหนือสิ่งอื่นใด ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังตั้งคำถามอย่างแหลมคมถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ว่ามนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลายมันได้หรือไม่ และหากยังยืนกรานจะเอาชนะธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจเกินกว่ามนุษย์จะรับมือไหว เหมือนฉากที่เทพป่า แปรสภาพเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาและเกินจะเข้าใจ เป็นภาพแทนของพลังธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจควบคุมได้
