
ไปต่อ หรือ พอแค่นี้? สรุปรายงาน “Why Travel?” เมื่อคนรุ่นใหม่ใช้ AI วางแผน, บินข้ามโลกไปดูคอนเสิร์ต, และจองทริปตาม Influencer กำลังเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวแบบมีประสบการณ์ แทนที่แผนที่การท่องเที่ยวแบบเดิม
เมื่อเทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จน "การเที่ยวแบบเดิม" ที่เน้นแค่การไปถึงจุดหมายไม่เพียงพออีกต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนยุคใหม่ยอมบินข้ามโลกเพื่อ "ชมคอนเสิร์ต" และ "วิ่งมาราธอน" ขณะที่ AI กำลังเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการวางแผนทริปแทนที่ไกด์บุ๊ก?
Trip.com Group จับมือกับ Google เผยรายงานเชิงลึกระดับโลก “Why Travel?” ที่ไม่เพียงแต่บอกว่าคนจะไปเที่ยวที่ไหน แต่เจาะลึกถึงเหตุผลที่คนตัดสินใจเดินทาง เพื่อสำรวจ 5 แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดรูปแบบการเดินทางแห่งอนาคตในปี 2026
นี่คือยุคที่ Social Media คือตัวขับเคลื่อนการจองทริป ไม่ใช่แค่เอาไว้แชร์รูป แต่เป็น “แรงจูงใจแรก” ในการตัดสินใจเดินทาง ปรากฏการณ์ Live Commerce พบว่ากว่า 75% ของนักท่องเที่ยวรับชมไลฟ์สตรีมท่องเที่ยว และกว่า 40% มีแนวโน้มจะกดจองทริป ผ่านลิงก์ในไลฟ์นั้นทันที ขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนจากแค่การโปรโมตสถานที่ มาเป็นการสร้าง “Content Journey” ที่ดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นผ่าน Influencer/KOLs
คนยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่ “มาถึง” แต่ต้องการ “ซึมซับ” วัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง เพื่อเติมเต็มคุณค่าทางจิตใจ เช่นการค้นหา "พิธีชงชาญี่ปุ่น" เพิ่มขึ้นถึง 53% สะท้อนการเดินทางที่มุ่งหาประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าแค่ถ่ายรูป นักท่องเที่ยวเหล่านี้พร้อมจ่ายเพื่อ "ความทรงจำที่มีเรื่องเล่า"
เทรนด์นี้เติบโตควบคู่ไปกับความเครียดในชีวิตประจำวัน โดยการเดินทางเพื่อสุขภาพไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพักผ่อน แต่รวมถึงกิจกรรมที่ท้าทายด้วย เช่นการค้นหา “กอล์ฟและรีสอร์ทสปา” พุ่งถึง 300% ขณะที่แพ็กเกจ “สกีและสปา” เพิ่มขึ้น 250%
ธุรกิจ Wellness และ Medical Tourism จะโตระเบิด แต่ต้องนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งการพักผ่อนเต็มรูปแบบ และการ “Active Wellness” ที่รวมกิจกรรมผจญภัยหรือการออกกำลังกายเข้ากับการดูแลตัวเอง
การเดินทางกลายเป็นเครื่องมือในการสร้างคอมมูนิตี้และแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกับเพื่อน, ครอบครัว, และกลุ่มผู้สนใจเดียวกัน โดยเฉพาะคอนเสิร์ตและกีฬา นักท่องเที่ยว 2 ใน 3 ยินดีเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชมคอนเสิร์ต ขณะที่ "Endurance Tourism" (การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมความทนทาน เช่น วิ่งมาราธอน, แข่งปั่นจักรยาน, Hyrox) เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า
แพ็กเกจ “ทัวร์คอนเสิร์ตแบบครบวงจร” อาจเป็นโอกาสทองสำหรับผู้จัดงานอีเวนต์และสถานที่จัดแสดงที่รวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว
ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการใช้เทคโนโลยี AI ในการวางแผนการเดินทางมากขึ้น จนกลายเป็น “ผู้ช่วยส่วนตัว” ที่ขาดไม่ได้ เทคโนโลยีอย่าง Gemini, AI Mode บน Google Search, และเครื่องมือวางแผนของ Trip.com (Trip.Planner) ไม่ได้เป็นเพียงแค่ “ทางเลือก” แต่กำลังจะเป็นนักวางแผนทริปส่วนตัวที่รู้ใจที่สุด
จากสถิติพบว่าการใช้ AI ค้นหาคำว่า “ช่วยวางแผนการเดินทาง (Help planning my trip)” พุ่งกว่า 190%
เฝิง หาน รองประธาน Trip.com Group สรุปว่า “การท่องเที่ยวในปี 2026 จะเป็นมากกว่าการเดินทางสู่จุดหมาย แต่คือการเดินทางที่มีความหมาย... เราต้องเข้าใจไม่เพียงว่าผู้คนเดินทางไปที่ไหน แต่เพราะอะไรพวกเขาถึงตัดสินใจเดินทาง”
จอยส์ จาง ผู้อำนวยการ Google เสริมว่า “เครื่องมือ AI ของ Google เช่น Gemini และ Google Translate กำลังเป็นผู้ช่วยสำคัญ... ขณะเดียวกันก็ช่วยให้อุตสาหกรรมและพันธมิตรของเราสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจที่รออยู่ในปี 2026 ได้อีกด้วย”
ที่มา: รายงาน “Why Travel?” โดย Trip.com Group และ Google (เผยแพร่เมื่อ 22 ตุลาคม 2025)