เปลี่ยน Work Space ด้วยตัวเอง บาลานซ์ทั้งงานและชีวิต ได้ไอเดียจัดเต็ม

เปลี่ยน Work Space ด้วยตัวเอง จัดบ้านให้น่าอยู่ สร้างไอเดีย

การทำงานแบบ hybrid คือ รูปแบบการทำงานที่พนักงานสามารถเลือกทำงานได้ทั้งจากออฟฟิศ บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ แทนการเข้ามาทำงานในออฟฟิศทุกวันเพียงอย่างเดียว ช่วงแรกๆหลายคนก็อาจจะชอบ แต่บางทีการนั่งทำงาน Work from home เพียงอย่างเดียว ไม่เจอผู้คน ไม่เจอสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ก็อาจทำให้เราหมดไอเดียในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆไป

เพื่อให้บรรยากาศในบ้านของเราดูน่าทำงานทำงานมากขึ้น วันนี้เราจะมาแจกไอเดียง่าย ๆ ทำเองได้ไม่เปลืองเงิน ช่วยให้บ้านของเราน่าทำงานมากยิ่งขึ้น โดยไม่รบกวนช่วงเวลาพักผ่อนจากงาน

Step1: (การเลือกที่อยู่อาศัย) รู้ให้ชัด ว่าตัวเองชอบอะไร อยากได้อะไร

แทนที่จะเลื่อนดูแนวการจัดบ้านในอินเทอร์เน็ต ลองลิสต์ดูเองก่อนว่ามีอะไรที่เราอยากได้จริงๆบ้าง เพราะบางทีสิ่งที่เขาแนะนำมาในอินเทอร์เน็ตอาจจะมีประโยชน์กับเขา แต่สำหรับเราอาจจะไม่จำเป็นขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในบ้าน ในคอนโด ในอพาร์ตเมนต์ หรือแม้แต่บริเวณโต๊ะทำงาน ควรมีสิ่งที่เราคิดว่าชอบหรือมีประโยชน์กับเรา

เช็กลิสต์ง่ายๆ ที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกที่อยู่อาศัย

• คุณอยากอยู่ห่างจากที่ทำงานแค่ไหน และคุณวางแผนที่จะไปที่นั่นอย่างไร (จักรยาน รถไฟใต้ดิน รถยนต์ ฯลฯ) เพื่อนและ/หรือครอบครัวของคุณอาศัยอยู่ที่ไหน และคุณอยากจะอยู่ห่างจากพวกเขาแค่ไหน?
• คุณต้องการพื้นที่ขนาดไหน ไม่เล็กเกินไป และไม่ใหญ่เกินไป?
• แสงธรรมชาติมีความสำคัญแค่ไหน และคุณอยู่บ้านในช่วงเวลากลางวันบ่อย ชอบแสงเช้าหรือแสงบ่าย?
• ห้องไหนในบ้านหรืออพาร์ตเมนต์ที่คุณมักจะใช้เวลาอยู่มากที่สุด และต้องการจัดลำดับความสำคัญในพื้นที่ในอนาคตของคุณ
• งบประมาณ คุณสามารถจ่ายค่าที่พักในแต่ละเดือนได้เท่าไหร่?
• คุณอยากที่จะอยู่คนเดียวหรือกับมีเพื่อนร่วมห้อง? สิ่งนี้จะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายของคุณอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร?

Step2: สังเกตตัวเองว่าอะไรจะกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์หรือการกระตือรือร้นในการทำงานของเรา

ลองทำและเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่รอบๆตัวดู และคอยสังเกตตัวเองว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะทำงานได้ดีที่สุด หรือเวลาทำอะไรจะเกิดไอเดียใหม่ๆขึ้นมา เมื่อสังเกตตัวเองแล้ว คุณจะสามารถปรับปรุงจัดระเบียบที่พักอาศัยหรือบริเวณที่ทำงานให้เหมาะสมกับคุณได้

เช่นลองคิดดูว่าคุณมีความคิดสร้างสรรค์ตอนที่กำลังอาบน้ำหรือไม่? ถ้าเป็นอย่างนั้นลองใช้เวลาวันอาทิตย์ล้างห้องน้ำ ซ่อมอ่างล้างจานที่รั่ว เปลี่ยนม่านอาบน้ำใหม่ หรือแม้แต่ติดกระดานไวท์บอร์ดบนผนังเพื่อให้สามารถจดไอเดียใหม่ๆได้ง่ายขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ จะสามารถปรับปรุงพื้นที่ในการทำงานให้ดีที่สุด

Step3: สร้าง comfort zone ในพื้นที่ของตัวเอง

เมื่อเรารู้สึกเหนื่อยล้า อยากพักผ่อน แต่ในพื้นที่บริเวณรอบข้างหันไปทางไหนก็มีแต่งาน เราจึงควรมีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนด้วย อาจจะเป็นห้องนอน ห้องครัว หรือโต๊ะริมกระจกที่สามารถมองเห็นวิว หรืออะไรก็ได้ ที่เราคิดว่าถ้าเราอยู่ในจุดนั้นแล้วหัวเราจะโล่ง หยุดคิดเรื่องงานได้สักพัก

comfort zone อาจไม่ได้เป็นแค่พื้นที่เท่านั้น มันรวมไปถึงสิ่งที่เราชอบทำ ไม่ว่าจะเป็นการหยุดทำงานมาฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีส์ การทำขนม การเช็ดบ้านถูบ้าน หรือสิ่งที่เราทำแล้วเราสบายใจ เพื่อให้หัวโล่ง ผ่อนคลายจากงานที่หนัก

Step4: แยกพื้นที่บ้านและพื้นที่ทำงานออกอย่างชัดเจน

นอกจากการทำงานที่ออฟฟิศแล้ว การทำงานที่บ้านก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครหลายๆคน การมีสตูดิโอที่บ้านดูเป็นเรื่องที่สะดวกสบาย "แต่สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือแยกพื้นที่บ้าน และพื้นที่ทำงานออกอย่างชัดเจน" อาจสร้างสตูดิโอแยกออกจากตัวบ้านแต่นั่นอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก หรือถ้าคุณแค่อยากมีพื้นที่เล็กๆทำงานเฉยๆก็อาจจะแค่มีม่านมากั้น หรือทำห้องใดห้องหนึ่งเป็นห้องทำงานไปเลย

สำหรับการทำงานที่ออฟฟิศ นอกจากองค์ประกอบหลักเรื่องโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงานแล้ว บรรยากาศการทำงานก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะถือเป็นจุดเริ่มที่จะการผลิตผลงานต่างๆออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการมองหาบริษัทที่มี Working Environment ดี ก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกันนะ

Working Environment ที่ดีควรมีอะไรบ้างถึงจะเป็นบริษัทน่าทำงาน

• Inspiration Space กระตุ้นไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจ
• Meeting Space แยกชัดเจนสำหรับพื้นที่ประชุม คุยงาน
• Relaxing Space สำหรับพนักงานที่เครียด ต้องการพักผ่อน
• โต๊ะทำงาน ควรจะมีขนาดพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป และนี่คือสิ่งที่เราต้องจัดการเอง นั่นคือการจัดโต๊ทำงานให้เรียบร้อย หยิบจับสิ่งของสะดวก

เอาใจสายมู สิ่งของเสริมมงคล เสริมพลังการทำงาน และความหมาย 

นอกจากการจัดบ้านหรือจัดระเบียบโต๊ะทำงานให้น่าอยู่แล้ว บางคนก็มีสิ่งที่เชื่อว่า สิ่งของเสริมมงคล ถ้ามีแล้วการงานจะปังขึ้นแน่นอน และนี่ก็คือทริกเล็กๆสำหรับสายมูที่ต้องการสิ่งของมาเสริมพลังการทำงาน นำมาตั้งบริเวณที่เราทำงาน การงานปังราบรื่น สมใจหวัง

• ต้นไม้มงคล : เสริมดวง เสริมการงานของเราได้ด้วย เช่น คลาสซูล่าหรือต้นใบเงิน จะนำความสำเร็จความมั่งคั่งมาสู่เจ้าของ
• ภาพมงคล : ภาพม้า8ตัว จะช่วยให้ทำงานได้ก้าวกระโดดแบบไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากภาพม้าแล้ว ภาพมงคลที่นิยมกันก็จะเป็นภาพปลาคราฟ ซึ่งปลาคราฟมีนิสัยชอบว่าทวนน้ำ แสดงถึงความไม่ย่อท้อ
• มังกร : มังกรถือเป็นสัตว์มงคลของจีน แสดงถึงอำนาจบารมี และความมั่นคง อาจจะนำมังกรตัวเล็กๆมาวางประดับบนโต๊ะทำงานเพื่อเป็นการเสริมเรื่องการมีอำนาจบังคับบัญชาได้ด้วย
• ฮก ลก ซิ่ว : เชื่อว่าจะช่วยเสริมให้ชีวิตก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง มีความสุข สุขภาพดี ตามความหมายของเทพทั้ง 3 องค์
• น้ำมันหอมระเหย : กลิ่นหอมจะนำพาสิ่งดีดีมาให้ เป็นพลังงานบวกที่จะทำให้การทำงานของเราราบรื่น
• น้ำ : น้ำจะช่วยเสริมดวงให้การทำงานของเราลื่นไหลเหมือนสายน้ำ เจรจากับใครก็ได้ผลดี

สำหรับ Working Human อย่างพวกเรา การมีไอเดียใหม่ๆพร้อมความคิดสร้างสรรค์ที่ดีเป็นตัวช่วยให้การทำงานของเราเป็นไปได้ด้วยดี

การจัดบ้านหรือการจัดพื้นที่ทำงานก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถส่งเสริมให้เรามีไอเดียที่ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเราต้องสังเกตตัวเองว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร หรืออะไรที่ทำแล้วจะรู้สึกดี อะไรที่ทำแล้วจะกระตุ้นความคิดหรือการกระตือรือร้นในการทำงาน และที่สำคัญ งานและการพักผ่อนคือสิ่งที่ควรแยกกันให้ชัดเจน ไม่เอามาปนกัน แล้วชีวิตการทำงานจะมีความสุขขึ้นมาก

บทความอื่นที่น่าสนใจ

• Soft skills ทักษะที่มีติดตัวไว้ ทำงานที่ไหนก็ได้ สัมภาษณ์ที่ไหนก็ปัง
• วิธีรับมือและเอาตัวรอด การเป็น "มนุษย์เป็ด" ที่ไม่ธรรมดา และองค์กรต้องการ
• เลิกเป็น "People pleaser" อะไรก็ยอมซะที! หัดปฏิเสธเพื่อความสุขตัวเองบ้าง

อ้างอิง

• https://thecreativeindependent.com/guides/how-to-make-your-home-and-workspace-fuel-your-creativity/?utm_source=pocket_collection_story
• Photo : Freepik