ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
รัฐบาลยืนยัน จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์การขึ้นภาษีสุราบุหรี่ของรัฐบาลในสังคมออนไลน์ ว่า เพื่อทดแทนการขาดดุลงบประมาณ จำนวนกว่า 6 แสนล้านบาท เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายนั้น
[caption id="attachment_100041" align="aligncenter" width="448"] นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง[/caption]
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่า ดุลเงินงบประมาณของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของฐานะการคลังของรัฐ มีประโยชน์คือใช้ติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพคล่องของรัฐบาล และภาระที่รัฐบาลต้องจ่ายออกจากเงินงบประมาณ เช่น รายจ่ายผูกพันจากปีงบประมาณก่อน ๆ ส่วนคำว่า "ขาดดุลงบประมาณ" นั้น จะคำนึงถึงเฉพาะรายการที่เป็นการใช้จ่ายตามเอกสารงบประมาณ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินนโยบายการคลังในแต่ละปี โดยในปีงบประมาณ 2560 ได้มีการกำหนดการขาดดุลงบประมาณไว้จำนวน 552,920 ล้านบาท และจากข้อมูลล่าสุด ดุลเงินงบประมาณในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ขาดดุลจำนวน 591,065 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการที่รัฐบาลลงทุนเพื่อส่งเสริม การขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากไม่นับรวมรายจ่ายปีก่อน ดุลเงินงบประมาณปีนี้จะขาดดุลเพียง 399,112 ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าอยู่ภายใต้กรอบการขาดดุลของปีงบประมาณ 2560 ที่กำหนดไว้ (552,920 ล้านบาท)
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 นั้นพบว่า สูงกว่าเป้าหมาย 1,961 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.1 โดยคาดว่าในปีนี้จะจัดเก็บรายได้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ 2.343 ล้านล้านบาท
ส่วนการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต หรือ ภาษีสุราบุหรี่อัตราใหม่ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2560 ที่ผ่านมานั้น จะส่งผลกระทบต่อดุลเงินงบประมาณตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 เป็นต้นไป จึงไม่มีผลต่อดุลงบประมาณปีนี้ตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด ในทางตรงกันข้ามกลับมีผลดีคือ การปรับปรุงโครงสร้างภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้บริโภคตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพ ลดการดื่มสุราและสูบบุหรี่ โดยไม่ได้มุ่งเน้นที่การหารายได้เป็นสำคัญ และไม่ใช่เพื่อทดแทนการขาดดุลงบประมาณ