ช้างป่าเขาอ่างฤาไนนับ 100 ตัวออกอาละวาดหนัก (มีคลิป)

ฝูงช้างจากป่าเขาอ่างฤาไนจำนวนนับ 100 ตัว ยังคงพากันยกโขยงออกหากินพืชไร่และแปลงนาข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนักต่อเนื่อง ด้านรองผู้ว่าราชการจ.ฉะเชิงเทรา สั่งเร่งให้ความช่วยเหลือแล้ว

นางวศินี มะลาผล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295/2 ม.9 บ้านอ่างเตย ชาวบ้าน ตำบลท่าตะเกียบ อำเภอท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ชี้ให้ดูถึงความเสียหายของผลผลิตทางการเกษตรที่เกิดจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีฝูงช้างป่ามากกว่า 30 ตัว ที่พากันออกจากป่ามาหากิน ทั้งต้นกล้วย ต้นขนุน มะละกอและอื่นๆที่ปลูกไว้ข้างๆและหลังบ้าน ราบเป็นหน้ากอง รวมไปถึงโอ่งน้ำขนาดใหญ่รองน้ำฝนใส่ไว้ 2 ใบ ซึ่งมีฝาปิดมิดชิดอยู่หลังบ้าน ก็ยังถูกช้างป่าใช้งวงเปิดฝาและดูดน้ำในโอ่งกินจนเกือบหมด โดยช้างใช้เวลากินอยู่ราว 30 นาที ก่อนจะพากันเดินหายไปในความมืด มุ่งหน้าไปทางด้านหลังวัดอ่างเตย สร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวอย่างมาก เนื่องจากบางคืนต้องออกไปรับจ้าง ในหมู่บ้าน ปล่อยให้ลูกและหลาน 3 คนอยู่บ้านกันเพียงลำพัง และไม่รู้จะอพยพหรือย้ายไปไหน เพราะไม่มีที่ไป ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานทางอำเภอเข้าไปดูแลช่วยเหลือ มีเพียงเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เพื่อนบ้านและผู้นำหมู่บ้านไปช่วยเหลือเท่านั้น

ขณะที่ชาวบ้าน บอกว่า เบื้องต้นใช้วิธีป้องกันด้วยการใช้ระเบิดลูกบอลจุดโยนใส่ให้เกิดเสียงดัง แต่หากพบเห็นฝูงช้างระยะไกล ๆ ก็จะจุดระเบิดลูกบอลแล้วใส่หนังสติ๊ก ยิงขึ้นฟ้า จะเกิดเสียงดังมาก บางครั้งก็ไม่ได้ผลมากนัก ซึ่งในปีที่ผ่านๆมา ไม่เคยมีช้างออกมามากมายขนาดนี้ มีก็เพียง 2 – 3 ตัว แต่ปัจจุบันออกมาเป็นร้อยๆ ตัว

ล่าสุด นายกิตติพันธุ์ โรจนชีวะ รองผู้ว่าราชการจ.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ ตรวจสอบความเสียหาย พร้อมสั่งการให้นายอำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัยเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะต้องปรับแผนการไล่ต้อนผลักดันช้างป่าใหม่ เพราะที่ผ่านมายังใช้ผิดวิธี โดยต้องกำหนดแนวทางการปฏิบัติร่วมกันและเป็นไปแนวทางเดียวกัน เพราะหากใช้วิธีการเดิม คือต่างคนต่างไล่ต้อนผลักดัน ช้างก็จะวนเวียนอยู่ในพื้นที่สองอำเภอวนไปวนมา และก็กัดกินพืชไร่ของชาวบ้านอยู่อย่างนั้น คือต้องร่วมกันไล่ต้อนและผลักดันเข้าผืนป่าคือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน