ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
วันที่ 21 พ.ค. เวลา 16.50 น.นายวัฒนา ภุมเรศ ได้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีเทา ทะเบีบน 1 กฎ 6827 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดภายในลานจอดรถการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จากนั้นเดินไปยังอาคารสถานพยาบาล ก่อนจูงรถจักรยานมาที่ข้างรถยนต์ของตนเองที่นำมาจอด ต่อมาได้นำเสื้อแขนสั้นสีครีมจากภายในรถยนต์มาสวมใส่ ก่อนปั่นจักรยานคันดังกล่าว ออกไปจากลานจอดรถ ตามเส้นทางเพื่อออกประตูหลังของ กฟผ.เพื่อเดินทางไปยังยันฮีคอนโด ในเวลา 17.29 น.
ต่อมาวันที่ 22 พ.ค. เวลา 06.13 น.นายวัฒนาได้ออกมาจากอาคารยันฮีคอนโด ขี่รถจักรยานมายังอาคาร กฟผ.อีกครั้ง โดยปั่นจักรยานมาจอดที่ข้างรถยนต์ของตนเองอีกครั้ง จากนั้นได้หยิบถุงพลาสตอกสีขาวขนาดใหญ่จากบริเวณประตูด้านหน้าฝั่งคนขับ ซึ่งภายในถุงพลาสติกมีแจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดง ก่อนขี่จักรยานออกจาก กฟผ.ทางด้านประตูหน้า มุ่งหน้าไปทางปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 97 จากนั้นได้ขี่จักรยานมาบนทางเท้าแล้วย้อนศรมุ่งหน้าไปยังสะพานลอยคนข้าม เพื่อข้ามสะพานลอยไปยัง ซ.จรัญฯ 96/2 และได้ขึ้นรถโดยสารประจำทาง ปอ.18 ในเวลา 07.43 น.
ต่อมาเวลา 08.43 นาที นายวัฒนา ได้ลงจากประจำทางคันดังกล่าว ที่บริเวณป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 และ 6 ของ รพ.พระมงกุฏเกล้า โดยได้สวมที่ปิดปากปิดจมูกอำพรางใบหน้าเดินถือถุงพลาสติกมาตาม ถนนราชวิถี ทิศทางจากแยกตึกชัย มุ่งหน้าอนุสาวรียชัยสมรภูมิ เมื่อเดินทางมาถึงประตู 6 นายวัฒนา เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปภายในโรงพยาบาล มุ่งหน้าไปปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ
จากนั้นเวลา 08.46 น. เดินเข้าไปภายในอาคาร และเดินเข้าไปภายในห้องวงษ์สุวรรณ ในเวลาประมาณ 08.47 น. โดยนายวัฒนาอยู่ในห้องดังกล่าวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 33 นาที ซึ่งระหว่างนี้นายวัฒนา ได้เปิดสวิตซ์ระเบิดและเริ่มหน่วงเวลาระเบิด
จากนั้นเวลา 10.20 น. นายวัฒนาได้เดินออกมาจากห้องวงษ์สุวรรณ ก่อนเกิดเหตุระเบิดเพียง 10 นาที เท่านั้น โดยใช้มือขวากำรวบถุงพลาสติกเข้ากับด้ามร่มในลักษณะหนีบ ไม่ปรากฏวัตถุที่มีน้ำหนัก คือ แจกันดอกไม้ และช่อดอกไม้สีส้มแดงที่นำมาด้วย จากนั้นได้เดินออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติผ่านทางก่อสร้าง และปรากฏภาพนายวัฒนา เดินตามถนนราชวิถี จากประตู 7 มุ่งหน้าประตู 6 เพื่อไปยังป้ายรถประจำทาง ในขณะนั้นเวลา 10.31 น. ได้มีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้ถ่ายภาพและปรากฏภาพแจกันต้องสงสัยติดผนังที่จุดเกิดเหตุไม่นาน ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดขึ้น
เวลา 10.43 น.หลังเกิดเหตุนายวัฒนา ได้ขึ้นรถประจำทางสาย 14 ที่ป้ายรถประจำทางระหว่างประตู 5 กับประตู 6 มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนลงจากรถบริเวณเกาะพญาไท จากนั้นได้เดินบนสกายวล์อก ไปยังฝั่ง รพ.ราชวิถี ก่อนลงจากสะพานมาที่บริเวณเกาะราชวิถี และไปนั่งอยู่บริเวณจุดติดตั้งตู้เอทีเอ็ม โดยนั่งอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นเวลา 18 นาที แล้วลุกเดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว ต่อมาเวลา 11.31 น.ได้เดินออกมามุ่งหน้าไปยังป้อม ขสมก. จนกระทั่งเวลา 12.24 น. ได้เดินออกมาจากป้อม ขสมก. แล้วขึ้นรถประจำทางสาย 18 เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไป ยังท่าอิฐ จ.นนทบุรี
จากนั้นเวลา 13.03 น.นายวัฒนาได้ลงจากรถ ขี่จักรยานกางร่มผ่านร้าน 7-11 ปากซอยจรัญฯ 97 มุ่งหน้าไปยังกฟผ. บางกรวย และเข้าไปจอดบริเวณอาคารสถานพยาบาล ก่อนเดินมาที่รถยนต์ที่จอดไว้ เพื่อเก็บของในรถ และขับรถออกไปจาก กฟผ.
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือ อีโอดี กองกำกับการสุนัขตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายวัฒนา พบสิ่งประกอบวัตถุระเบิดหลายรายการ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คดี ในที่สุด นายวัฒนารับสารภาพว่าเป็นผู้ประกอบระเบิดด้วยตนเองที่บ้านพัก เนื่องจากไม่ชอบรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติและรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่วัดปทุมวนารามเมื่อปี 2553 รวมทั้งยอมรับว่า เหตุระเบิดป่วนเมืองที่เกิดขึ้นในปี 2550 ถึง 3 ครั้ง บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซินิเพล็กซ์ รัชโยธิน ตู้โทรศัพท์สาธารณะปากซอยราชวิถี 24 และตู้โทรศัพท์สาธารณะ ปากซอยข้างกองบัญชาการกองทัพบก เป็นฝีมือของเขาเอง!!!