svasdssvasds

มิลเลนเนียล–Gen Z จ่อขึ้นแท่น 1 ใน 3 มหาเศรษฐีโลก มั่งคั่งครั้งใหญ่

มิลเลนเนียล–Gen Z จ่อขึ้นแท่น 1 ใน 3 มหาเศรษฐีโลก มั่งคั่งครั้งใหญ่

รายงานชี้มิลเลนเนียล–Gen Z เตรียมครองสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของมหาเศรษฐีโลกใน 15 ปี จากการถ่ายโอนความมั่งคั่งหลายสิบล้านล้านดอลลาร์ และการสร้างฐานะจากอุตสาหกรรมใหม่

SHORT CUT

  • ภายในปี 2040 มิลเลนเนียลและ Gen Z จะครองสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มมหาเศรษฐีโลก จากการถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งใหญ่หลายสิบล้านล้านดอลลาร์จากเบบี้บูมเมอร์ รวมถึงการสร้างฐานะจากอุตสาหกรรมใหม่
  • มรดกยังเป็นปัจจัยสำคัญ โดยคนรุ่นใหม่จำนวนมากคาดว่าจะได้รับทรัพย์สินเร็วขึ้น ขณะเดียวกันความมั่งคั่งใหม่เกิดจากเทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย บริการ ความบันเทิง และการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เน้นนอกตลาดและความยั่งยืน
  • โฟกัสอุตสาหกรรมเติบโตสูง ลงทุนอย่างยั่งยืน วางแผนรับมรดกอย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างวินัยการเงินในสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น ความรู้ทางการเงิน การออม การลงทุนระยะยาว และการกระจายความเสี่ยง

รายงานชี้มิลเลนเนียล–Gen Z เตรียมครองสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของมหาเศรษฐีโลกใน 15 ปี จากการถ่ายโอนความมั่งคั่งหลายสิบล้านล้านดอลลาร์ และการสร้างฐานะจากอุตสาหกรรมใหม่

รายงานเผยกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z จ่อครองสัดส่วน 1 ใน 3 ของกลุ่มมหาเศรษฐีทั่วโลก ภายในปี 15 ปีข้างหน้า ผ่านการถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งใหญ่ มูลค่าหลายสิบล้านล้านดอลลาร์จากพ่อแม่รุ่นเบบี้บูมเมอร์สู่ทายาท ประกอบกับการสร้างฐานะจากอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

ความมั่งคั่งของโลกกำลังจะเปลี่ยนมือในระดับมหาศาลจากปัจจุบันที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ควบคุมความมั่งคั่งในอเมริกามากกว่าครึ่งหนึ่ง คิดเป็นมูลค่าประมาณ 78.5 ล้านล้านดอลลาร์หรือ 51.8 เปอร์เซ็นต์ของความมั่งคั่งทั้งหมดของประเทศ

รายงานล่าสุดของ ALTRATA ยังพบว่า “เบบี้บูมเมอร์” ยังคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของกลุ่มอภิมหาเศรษฐีทั่วโลก ซึ่งเป็นคำนิยามของบุคคลที่มีมูลค่าทรัพย์สินอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์

แต่สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป ในช่วง 2 ทศวรรษข้างหน้า เนื่องจากเงินหลายล้านล้านดอลลาร์จะถูกมอบให้กับทายาทของมหาเศรษฐีเหล่านี้ในการเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่า "การถ่ายโอนความมั่งคั่งครั้งใหญ่” (The Great Wealth Transfer)

ALTRATA คาดการณ์ว่า ภายในปี 2040 กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและกลุ่ม Gen Z จะคิดเป็นมากกว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มมหาเศรษฐีทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน ขณะที่กลุ่มคนรุ่น Gen X จะครองสัดสาวนมากสุดที่ 45 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนรุ่มบูมเมอร์และกลุ่มคนรุ่นสงบเงียบ (Silent Generation) จะมีสัดส่วนลดลงจาก 2 ใน 3 เหลือเพียง 1 ใน 5 เท่านั้น

ขนาดของการถ่ายโอนความมั่งคั่งนี้อยู่ในระดับที่มหาศาลมาก โดย World Economic Forum คาดว่าจะมีเงินระหว่าง 68 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 84 ล้านล้านดอลลาร์ที่จะถูกส่งต่อไปยังคู่สมรส บุตรและองค์กรการกุศลในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว หากพิจารณาตามสัดส่วนแล้ว นั่นเป็นจำนวนเงินประมาณ 3 เท่าของขนาดเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งหมดในปี 2023

วิธีที่คนหนุ่มสาวสะสมความมั่งคั่ง

มรดก เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการถ่ายโอนความมั่งคั่งนี้ และในหลายกรณี มรดกมาถึงเร็วกว่าเมื่อก่อน โดย ALTRATA ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้กองทรัสต์ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงทายาทสามารถเข้าถึงความมั่งคั่งได้โดยไม่ต้องรอให้พ่อแม่เสียชีวิต

มิลเลนเนียล–Gen Z จ่อขึ้นแท่น 1 ใน 3 มหาเศรษฐีโลก มั่งคั่งครั้งใหญ่

การสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่คาดหวังสิ่งนี้เช่นกัน โดย 55 เปอร์เซ็นต์ของคนรุ่นมิลเลนเนียลและ 41 เปอร์เซ็นต์ของ Gen Z คาดว่าจะได้รับมรดกเป็นเงินหรือทรัพย์สินภายใน 5 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม คนรุ่นใหม่ยังสร้างความมั่งคั่งในอุตสาหกรรมที่แตกต่างจากคนรุ่นพ่อแม่ด้วยอุตสาหกรรมชั้นนำ ได้แก่

  • เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์: เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มมหาเศรษฐีรุ่นใหม่สร้างรายได้จากธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่มคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์
  • การบริการและความบันเทิง: ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ได้รับความมั่งคั่งจากอุตสาหกรรมเหล่านี้ เทียบกับคนรุ่นก่อนที่มีสัดส่วนน้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์
  • การเงินและการลงทุน: ยังคงเป็นภาคส่วนที่ใหญ่ที่สุดโดยรวม แต่คนรุ่น Gen Z และมิลเลนเนียลมีสัดส่วนที่น้อยกว่า คิดเป็นเพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับอัตราที่สูงกว่าในกลุ่มคนรุ่นก่อน ๆ นอกจากนี้การลงทุนยังแตกต่างกัน โดยแบบสำรวจแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนรุ่นใหม่มุ่งเน้นไปที่การลงทุนในบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ การลงทุนโดยตรงและสินทรัพย์ที่ยั่งยืน
  • อสังหาริมทรัพย์: แม้ว่าจะมีสัดส่วนที่สม่ำเสมอในกลุ่มคนทุกรุ่น แต่ภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นจุดสนใจหลักเมื่อคนรุ่นมิลเลนเนียลมีทรัพยากรเพียงพอในการซื้อบ้านได้ในที่สุด นอกจากนี้ อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมรดกจะเพิ่มทั้งอุปทานและอุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัย

ตั้งแต่สินค้าหรูหราไปจนถึงการบริจาคเพื่อการกุศล การจัดลำดับความสำคัญในการใช้จ่ายและการลงทุนของคนหนุ่มสาว การถ่ายโอนความมั่งคั่งนี้มีศักยภาพในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมทั้งหมด

สิ่งนี้มีความหมายอย่างไร?

แม้ว่าพวกเราส่วนใหญ่จะไม่ได้รับมรดกเป็นเงินล้าน แต่ก็มีบทเรียนและโอกาสบางอย่างสำหรับทุกคนที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งในเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง

นี่คือบางประเด็นที่ควรพิจารณา:

  • ให้ความสนใจกับอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง: เทคโนโลยี พลังงานหมุนเวียน แพลตฟอร์มดิจิทัลและการบริการ กำลังสร้างเศรษฐีหน้าใหม่ แม้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพได้ แต่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ กองทุน ETF หรือแม้แต่โอกาสทางธุรกิจขนาดเล็กในอุตสาหกรรมเหล่านี้
  • ลงทุนโดยคำนึงถึงความยั่งยืน: นักลงทุนรุ่นใหม่กำลังขับเคลื่อนความต้องการสินทรัพย์ที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม การปรับพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับแนวโน้มเหล่านี้จะช่วยให้เติบโตในระยะยาวได้
  • เตรียมตัวรับมรดกอย่างมีความรับผิดชอบ: หากคาดว่าจะได้รับมรดก ให้วางแผนไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการชำระหนี้ การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือการลงทุนเพื่ออนาคต ให้มองมรดกว่าเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเร่งให้บรรลุเป้าหมายไม่ใช่ข้ออ้างในการใช้จ่ายอย่างอิสระ
  • มุ่งเน้นในสิ่งที่ควบคุมได้: แม้จะไม่มีโชคลาภก้อนใหญ่อย่างใครเขา แต่ก็มีขั้นตอนที่สามารถทำได้เพื่อปรับปรุงอนาคตของตัวเอง โดยเริ่มต้นได้ด้วยการสร้างความรู้ทางการเงิน สร้างกองทุนสำรองฉุกเฉินในบัญชีออมทรัพย์ เปิดบัญชีสำหรับการเกษียณอายุ ลงทุนตั้งแต่เนิ่น ๆ ลงทุนบ่อย ๆ และกระจายพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

มิลเลนเนียล–Gen Z จ่อขึ้นแท่น 1 ใน 3 มหาเศรษฐีโลก มั่งคั่งครั้งใหญ่

ที่มา: Moneywise

Credit ภาพ: Reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

 

 

related