นายกรัฐมนตรีเชื่อ “พลเอกเปรม" เจตนาดีเตือนกองหนุนใกล้หมด บอกส่วนตัวตีความดึงทุกภาคส่วนมาช่วยขับเคลื่อนประเทศหมดแล้ว ชี้กองหนุนอยู่ที่ใจตราบใดที่ยังมีความเชื่อมั่นศรัทธาจากประชาชน
-4 ม.ค.61- เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.กล่าวถึงกรณีที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวเตือนว่า ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว ว่า ตนและทุกคนในครม.เข้าใจคำว่า กองหนุน ของพลเอกเปรม หมายถึง เอาทุกคนมาช่วยกันขับเคลื่อนประเทศในรูปแบบประชารัฐ ทั้งข้าราชการ เอกชน ภาคธุรกิจและประชาชน มาช่วยกันคิดมาช่วยกันทำเพื่อแก้ปัญหา หากมัวแต่หาประเด็นมาตีกันอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้กองหนุนมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าพลเอกเปรม ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับตน และได้ให้กำลังใจรัฐบาลมาโดยตลอด ไม่พูดอะไรให้รัฐบาลเสียหาย ดังนั้นขึ้นอยู่ว่าใครจะตีความอย่างไร
"คำว่ากองหนุนของผม คือ ใจผมยังเต็มที่ เต็มเปี่ยมอยู่ กองหนุนมันอยู่ที่ใจตัวเองก่อน ตราบใดที่ผมยังมีความเชื่อมั่นศรัทธาประชาชนของผม ก็คิดว่าเราจะทำได้และทำสำเร็จ แต่ถ้าท้อแท้หมดกำลังใจหรือโมโหมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่อง บ่อนทำลายตัวเองไปเปล่าๆ สุขภาพผมก็ไม่แข็งแรง อย่างที่สื่อก็เป็นห่วงผม กลัวเจ็บและตาย ดังนั้นยิ้มให้กันดีกว่า"
พลเอกประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกองหนุนที่อยากได้มากที่สุดนั้น คือ ประชาชนทุกพวกที่ต้องเข้าใจ เพราะหากประชาชนไม่เข้าใจก็จะลำบาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงประเทศจากสิ่งที่ทำมาทั้งชีวิต หรือที่เผชิญความยากจนมาทั้งชีวิตจะแก้ในเวลาอันสั้นคงไม่ได้ ขณะเดียวกันมีบางคนบอกว่า วันนี้ไม่น่ามีเหตุผลเรื่องความขัดแย้ง เพราะไม่มีเรื่องเหล่านี้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องตัดสินว่าควรจะเป็นอย่างไรต่อไป
อย่างไรก็ตามกองหนุนไม่ได้มีแค่กองเดียว แต่เป็นการที่ทุกคนมาช่วยกันขับเคลื่อน วันนี้ได้เรียกกองหนุนขั้นที่ 1 มาแล้ว แต่ขั้นที่ 2 คือคนที่ยังลำบากที่เราต้องแก้ไขปัญหาให้