แพ้แต่ได้ใจ!!! "ช้างศึก" พ่าย "สโลวัก" หวิว 2-3 คว้ารองแชมป์ "คิงส์คัพ ครั้งที่ 46"

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ 2018 ครั้งที่ 46 นัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติสโลวาเกีย ที่สนาม ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 19.30 น. ช้างศึกเกมแรกเอาชนะจุดโทษ กาบอง 4-2 (0-0) เกมนี้ไร้ปัญหาการจัดทัพโดยส่ง 4 นักเตะที่ค้าแข้งในต่างประเทศลงสนามครบครัน นำโดย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ , ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วน มงคล ทศไกร สลัดอาการบาดเจ็บฟิตกลับมาสองสนามต่อเนื่อง

เริ่มเกม น.10 สโลวาเกีย ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เมื่อ โรเบิร์ต มัค กระชากบอลหนี ฟิลิป โรลเลอร์ เข้ามาในเขตโทษก่อนตวัดย้อนหลังมาให้ ออนเดรจ ดูดา วิ่งเข้ามายิงทางเข้าเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ ถัดมา น.34 สโลวาเกีย ขยับสกอร์เป็น 2-0 เมื่อ เอริค พาซินต้า ดึงหลอกผู้เล่นไทยหน้ากรอบเขตโทษก่อนจ่ายทะลุแผงหลังทั้ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ พรรษา เหมวิบูลย์ ไปถึง โรเบิร์ต มัค เข้าไปยิงหนีตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เข้าไป

แต่ใน น.42 ไทย มาได้ประตูตีไข่แตกเมื่อ มิชาล ซุลลา นายด่านทีมเยือนจ่ายบอลพลาดไปติด ธีรศิลป์ แดงดา ในเขตโทษก่อนที่หัวหอกจากซานเฟรชเช ฮิโรชิมา จะตวัดไปให้ จักรพันธ์ แก้วพรม วิ่งยิงด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ ช้างศึก ไล่มา 1-2 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง น.68 สโลวาเกีย ตั้งเกมและสวนกลับเร็วเมื่อ ออนเดรจ ดูดา แต่งบอลให้ เอริค พาซินต้า ได้ปั่นด้วยซ้ายโค้งเสียบมุมสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม สโลวาเกีย นำห่างเป็น 3-1 แต่อย่างไรก็ตาม น. 78 ไทย มาได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 เมื่อ นูรูล ศรียานเก็ม เปิดลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาบอลทะลักมาทางเสาสองและเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ หลุดตัวประกบยิงเข้าไปไม่เหลือ หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มเติมเป็น ทีมชาติสโลวาเกีย เอาชนะ ทีมชาติไทย ไปได้ 3-2 คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ไปครองอีกทั้งยังเป็นแชมป์สมัยที่สองหลังเคยคว้ามาได้ในปี 2004