รัฐบาลอังกฤษเตรียมถูกอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจ หลังแผนข้อตกลงเบร็กซิทของนายกฯเทเรซ่า เมย์ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาอังกฤษ
พรรคแรงงานอังกฤษ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน เสนอให้มีการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจนางเทเรซ่า เมย์ และรัฐบาลชุดนี้ทันที ที่อาจจะส่งผลให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ หลังจากที่ผลการลงคะแนนเสียงเรื่องการสนับสนุนแผนข้อตกลงเบร็กซิท ที่นายกฯเทเรซ่า เมย์ ทำไว้กับสหภาพยุโรป หรือ อียู ปรากฏว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษลงคะแนนเสียงไม่สนับสนุนแผนข้อตกลงดังกล่าว 432 เสียง ขณะที่เสียงสนับสนุนมีเพียง 202 เสียง ต่างกันถึง 230 เสียง ซึ่งการอภิปรายและการลงคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สื่ออังกฤษรายงานว่า ข้อเสนอของนายคอร์บินจะไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะยังมีพรรคที่พร้อมจะสนับสนุนนายกฯเทเรซ่า เมย์ ต่อ และนายกฯเทเรซ่า เมย์ ได้กล่าวต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า หากเธอรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจ เธอจะนำแผนข้อตกลงเบร็กซิทฉบับใหม่มาเสนอในสัปดาห์หน้า
ข้อตกลงเบร็กซิทที่เสนอโดยนายกฯเทเรซา เมย์นั้น ไม่ได้รับการยอมรับเพราะหลายฝ่ายมองว่าเป็นข้อตกลงที่ล้มเหลว ทำให้อังกฤษไม่มีอำนาจในการดูแลกิจการของตนเองและยังต้องอยู่ภายใต้การครอบงำของอียู และหนึ่งในประเด็นสำคัญคือเรื่องพรมแดนไอร์แลนด์ ทั้งอังกฤษและอียูไม่ต้องการให้สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และไอร์แลนด์เหนือกลับมาตั้งด่านชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างกันอีก จึงรวมประเด็นนี้ไว้ในข้อตกลงเบร็กซิท แต่นั่นหมายความว่า ไอร์แลนด์เหนือซึ่งอยู่ภายใต้สหราชอาณาจักร จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของอียู เช่น เรื่องอาหารและสินค้าต่างๆ เป็นต้น จึงทำให้สมาชิกสภาผูแทนราษฎรหลายคนไม่พอใจในประเด็นนี้
ด้านนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป เสนอแนะว่า สหราชอาณาจักรควรยกเลิก เบร็กซิท ไปก่อน หากว่าสหราชอาณาจักรยังไม่สามารถตกลงกันเองในประเทศได้ ขณะที่นายฌอง-คล๊อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการยุโรป เตือนสหราชอาณาจักรให้รีบแสดงจุดยืนให้แน่ชัด เพราะเวลาใกล้หมดลงแล้ว เช่นเดียวกับประเทศแถวหน้าในอียู อย่าง เยอรมนีและฝรั่งเศส ที่ต่างก็ออกมาแสดงความกังวลว่าสหราชอาณาจักรอาจจะต้องออกจากอียูโดยที่ไม่มีข้อตกลงใดๆ
ผู้สังเกตการณ์ชี้ว่า จะเป็นเรื่องยากสำหรับนายกฯเทเรซ่า เมย์ ที่จะโน้มน้าวอียูให้ยอมใจอ่อนเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเพื่อทำให้รัฐสภาอังกฤษพอใจ ขณะที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษบางคนบอกให้เลื่อนกำหนดเบร็กซิทออกไปก่อนและเจรจากับอียูใหม่อีกครั้ง บางส่วนก็เรียกร้องให้มีการลงประชามติใหม่ แต่ทั้งสองทางเลือกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สหราชอาณาจักรยังมีกำหนดการเดิมที่ต้องถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกอียู นั่นก็คือวันที่ 29 มีนาคมนี้