รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผย ผู้เสียหายสามารถดำเนินดคี กับพนักงานเคอรี่ ฐานเปิดเผยความลับ ได้
จากกรณีที่ พนักงานบริษัทส่งพัสดุชื่อดังแกะพัสดุของลูกค้าโดยอ้างว่ากล่องพัสดุได้รับความเสียหาย ก่อนนำของด้านใน ซึ่งเป็นเซ็กซ์ทอยมาโพสต์ประจานและคอมเมนต์กันอย่างสนุกปาก จนกระทั่งทาง Kerry Express Thailand ได้เลิกจ้าง พนักงานจำนวน 4 คนของบริษัทในศูนย์กระจายสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม
ล่าสุด นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว อธิบายข้อกฎหมายที่ผู้เสียสามารถดำเนินคดีกับพนักงานกลุ่มนี้ โดยมีเนื้อหาว่า "เปิดพัสดุ ของคนอื่น ทำได้ ??? คึกคะนอง ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น เป็นพฤติกรรมที่ขาดสติ ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม แยกแยะผิดชอบ ชั่วดีกันไม่ได้หรือ ผู้ที่ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมหรือต่อผู้อื่น ก็จะนำความเดือดร้อนมาให้ตนเองและบริษัทที่ทำงาน
จากกรณีพนักงาน บริษัทรับส่งสินค้า นำของที่รับจ้างส่ง ออกมาโชว์ออกมาโพสต์ ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อน ผมว่าไม่ใช่วิสัยของคนดีพึงกระทำ สื่อมวลชนถามมาว่าผิดฐานใดได้บ้าง ก็คงอธิบายกันไปว่าการจะเอาผิดกฎหมายฐานใด ถ้ามีการแจ้งความตำรวจต้องไปทำการสอบสวน ในรายละเอียดว่าผู้กระทำกระทำเพราะสาเหตุใด หรือความจริง โดยละเอียด ทำอะไรบ้าง
แนวคิดที่นักกฏหมายทั่วไปจะคิด เป็นลำดับแรกคือ ทำให้เสียทรัพย์ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ข้อหาเปิดเผยความลับในรูปแบบจดหมายหรือพัสดุของผู้อื่นตามมาตรา 322 จำคุก ไม่เกิน 6 เดือน และอาจตามด้วยข้อหาหมิ่นประมาท โดยการโฆษณาจำคุกไม่เกิน 2 ปีตามกฏหมายอาญา เพราะไปเปิดหีบห่อ ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต นำไปโพสต์นำไปโชว์ ส่งต่อข้อมูลของลูกค้าให้ผู้อื่นด้วยหรือไม่ และที่สำคัญอย่าลืมนะครับว่า ความเสียหายทางแพ่งสามารถเรียกค่าเสียหายกันได้ต่อไปอีก ต้องชดใช้กันเท่าไหร่ กับความเสียหายที่เกิดขึ้น ?
ขอให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างให้สังคม มีสติอย่าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน หญิงผู้เสียหายทุกข์ร้อนมาก ขอให้มองคนอื่นเหมือนญาติเรา ทำอะไรก็ช่วยให้สังคมอยู่กันอย่างมีความสุขไม่ให้ใครเดือดร้อน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“เคอรี่” ไล่ออก 4 พนักงานแกะพัสดุลูกค้า-ถ่ายรูปเซ็กส์ทอยล้อเลียน
สาวลั่นฟ้องบริษัทส่งพัสดุ ทำชีวิตคู่พัง-ครอบครัวรับไม่ได้ เพ้อคิดฆ่าตัวตาย