วัคซีนต้านโควิด ความหวังของมนุษยชาติ เทียบประสิทธิภาพ ราคา ผลข้างเคียง วัคซีนต้านโควิด-19 ของแต่ละบริษัท
แม้โควิด-19 ระบาดมาร่วมปีแล้ว แต่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกก็ยังอยู่ในอัตราที่สูง โดยข้อมูลล่าสุดวันนี้ (3 ม.ค. 64) worldometers ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกแล้ว 84,987,657 ราย เสียชีวิต 1,843,688 ราย และรักษาหาย 60,103,462 ราย
แต่ท่ามกลางความมืดหม่น ก็มีแสงสว่างแห่งความหวังขึ้นมา เมื่อเริ่มมีการทยอยส่งมอบวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัทผู้ผลิต ไปให้ประเทศต่างๆ ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา
โดยประเทศไทย ก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งจองวัคซีน AZD1222 ของ AstraZeneca-Oxford จากสหราชอาณาจักร จำนวน 26 ล้านโดส คาดว่าจะได้รับวัคซีนกลางปีนี้
แต่จากการระบาดระลอกใหม่ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการปรับกลยุทธ์ สั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทอื่นๆ โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า จะพยายามจัดหามาให้ได้ก่อน 2 ล้านโดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายนนี้
โดยในวันนี้เพจเฟซบุ๊ก กระจ่าง - The Enlightener ได้มีการนำข้อมูลวัคซีนของ 6 บริษัท มาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นความแตกต่างกันในแต่ละด้าน ซึ่งสปริงได้นำจัดอันดับด้านประสิทธิภาพ ดังต่อไปนี้
มีประสิทธิภาพ 95 % โดยได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้ว เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 63 แต่ก็มีผลข้างเคียง คือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ มีไข้ โดยจะฉีดจำนวน 2 โดส เว้นระยะเวลาห่างกัน 21 วัน
สิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชีย และอาเซียน ที่ได้สั่งจอง และรับวัคซีนล็อตแรกของ Pfizer ไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และได้ทำการเริ่มฉีดให้ประชาชน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั้งประเทศ
มีประสิทธิภาพ 94.5 % แต่มีผลข้างเคียงคือ อ่อนเพลีย ปวดศรีษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ต้องฉีดจำนวน 2 โดส เว้นระยะเวลาห่างกัน 28 วัน
มีประสิทธิภาพ 92 % ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ต้องฉีด 2 โดส เว้นระยะเวลาห่างกัน 14 – 21 วัน โดยรัสเซียได้ให้ความช่วยเหลือมอบวัคซีนนี้ให้กับลาว จำนวน 500 โดส เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
มีประสิทธิภาพ 91.25 % ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ต้องฉีด 2 โดส
มีประสิทธิภาพ 79.34 % ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ต้องฉีด 2 โดส โดยจีนได้ให้ความช่วยเหลือมอบวัคซีนนี้ให้กับลาว จำนวน 2,000 โดส เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
เป็นวัคซีนที่ไทยสั่งจองจำนวน 26 ล้านโดส คาดว่า จะได้รับช่วงกลางปีนี้ มีประสิทธิภาพ 62 % ในการฉีดครั้งที่ 1 จำนวน 1 โดส กับฉีดครั้งที่ 2 จำนวน 1 โดส เว้นระยะเวลาในการฉีดห่างกัน 28 วัน ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง
แต่ถ้าฉีดครั้งที่ 1 จำนวนครึ่งโดส กับฉีดครั้งที่ 2 จำนวน 1 โดส จะมีประสิทธิภาพ 90 % ซึ่งจากผลที่ออกมาดังกล่าว ทำให้ก่อนหน้านี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก และทำให้ค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพโดยรวมของวัคซีนอยู่ที่ 76 %
ที่มา FB : กระจ่าง - The Enlightener