svasdssvasds

เทรนด์ใหม่คนอังกฤษ “ย้ายบ้านให้เล็กลง” เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

เทรนด์ใหม่คนอังกฤษ “ย้ายบ้านให้เล็กลง” เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

คนอังกฤษผุดเทรนด์ Downsizing แห่ขายบ้านใหญ่ ย้ายไปอยู่บ้านเล็กลง เพื่อลดภาระสินเชื่อและค่าครองชีพที่พุ่งสูง

SHORT CUT

  • แรงกดดันทางการเงินผลักให้คนย้ายบ้านเล็กลง  ค่าครองชีพและดอกเบี้ยกู้บ้านที่ยังสูงทำให้เจ้าของบ้านอังกฤษจำนวนมากเลือกขายบ้านใหญ่เพื่อย้ายไปอยู่บ้านที่ราคาถูกกว่า ลดค่างวดและค่าใช้จ่ายรายเดือน.
  • การปลดล็อกเงินทุนจากบ้าน (Equity Release) ผู้ที่ผ่อนบ้านใกล้หมดสามารถขายบ้านใหญ่เพื่อดึงเงินสดออกมาใช้ในวัยเกษียณ ลงทุนต่อ หรือช่วยลูกหลานซื้อบ้านได้ เป็นวิธีเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในยุคเศรษฐกิจตึงตัว.
  • ไลฟ์สไตล์เปลี่ยน ทำให้บ้านเล็กน่าอยู่ขึ้น การทำงานแบบยืดหยุ่นและเทรนด์บ้านพลังงานต่ำทำให้คนรุ่นใหม่และผู้สูงวัยหันมาชอบบ้านเล็กที่ดูแลง่าย อยู่สบาย และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม.

คนอังกฤษผุดเทรนด์ Downsizing แห่ขายบ้านใหญ่ ย้ายไปอยู่บ้านเล็กลง เพื่อลดภาระสินเชื่อและค่าครองชีพที่พุ่งสูง

เมื่อค่าครองชีพยังคงพุ่งสูงและอัตราดอกเบี้ยกู้บ้านยังอยู่ในระดับแพง คนอังกฤษจำนวนมากเริ่ม “Downsizing” หรือขายบ้านหลังใหญ่แล้วย้ายไปอยู่บ้านที่เล็กกว่า เพื่อคลายภาระทางการเงิน ไม่ว่าจะเพื่อลดค่างวดสินเชื่อ ปลดล็อกเงินทุนจากทรัพย์สิน หรือประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การย้ายบ้านเล็กลงกำลังกลายเป็นกลยุทธ์ที่คนจำนวนมากเลือกใช้

แรงกดดันทางการเงินที่ผลักให้ย้ายบ้าน

สาเหตุหลักมาจาก “ดอกเบี้ยเงินกู้บ้าน” ที่พุ่งสูงในช่วงปีที่ผ่านมา แม้คาดว่าปี 2025 จะเริ่มปรับลดลง แต่หลายครอบครัวยังต้องจ่ายค่างวดในอัตราที่สูงกว่าช่วงก่อนหน้า การขายบ้านใหญ่เพื่อย้ายไปอยู่บ้านราคาถูกลงจึงช่วยลดภาระรายเดือนอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ บ้านหลังใหญ่ยังมี “ค่าใช้จ่ายแฝง” สูง ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าทำความร้อน ภาษีท้องถิ่น และค่าบำรุงรักษา เจ้าของบ้านที่อยากใช้ชีวิตแบบประหยัดขึ้นจึงเลือกลดขนาดที่อยู่อาศัยเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้สมดุลกับรายได้

สำหรับคนที่ผ่อนบ้านมานานและมีทุนสะสมในบ้านมากแล้ว การขายบ้านใหญ่แล้วย้ายไปอยู่บ้านเล็กสามารถ “ปลดล็อกเงินก้อน” มาใช้ได้ทันที หลายคนใช้เงินนี้เพื่อวางแผนเกษียณ ลงทุนต่อยอด หรือช่วยลูกหลานซื้อบ้านหลังแรก

ในช่วงที่ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรเริ่มทรงตัว การขายบ้านในจังหวะนี้ถือเป็นการรักษามูลค่าทรัพย์สินก่อนที่ตลาดจะผันผวน และหากเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม ผู้ขายยังอาจได้บ้านหลังเล็กที่มีคุณภาพชีวิตดีกว่าในราคาต่ำกว่าเดิม

โลกการทำงานที่เปลี่ยนไป 

ปัจจัยด้านชีวิตก็มีผลไม่น้อย การทำงานแบบยืดหยุ่นทำให้หลายคนไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ตัวเมืองอีกต่อไป จึงย้ายไปบ้านเล็กในย่านชานเมืองหรือชนบทที่สงบกว่า โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ต้องการบ้านดูแลง่าย ใช้พลังงานน้อย และใช้ชีวิตสบายขึ้น

ตลาดอสังหาริมทรัพย์เองก็ตอบสนองเทรนด์นี้อย่างรวดเร็ว ด้วยอพาร์ตเมนต์และบ้านขนาดกะทัดรุนสมัยใหม่ที่เน้นความสะดวกและประหยัดพลังงาน ทำให้ “บ้านเล็ก” ไม่ได้แปลว่าต้องลดคุณภาพชีวิตอีกต่อไป แต่หมายถึงฟังชั่นต่างๆ ยังคงอยู่ครบ   

ก่อนจะย้าย ต้องคำนวณให้รอบคอบ

แม้การย้ายไปบ้านเล็กจะช่วยลดภาระในระยะยาว แต่ก็มีต้นทุนที่ต้องพิจารณา เช่น ค่าธรรมเนียมการขายบ้าน ค่าโอน ค่าทนาย ค่าขนย้าย หรือแม้แต่ค่าตกแต่งและซ่อมแซมบ้านใหม่

ก่อนตัดสินใจ ควรสำรวจตลาด พูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงินหรือที่ปรึกษาสินเชื่อ เพื่อประเมินว่าการ “Downsizing” เหมาะกับเป้าหมายชีวิตของคุณหรือไม่ เพราะในตลาดที่บ้านขนาดเล็กกำลังได้รับความนิยม การวางแผนและลงมือแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณได้บ้านที่ตรงใจในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

ที่มา housenous

related