ความสุขของเค เยาวราช จิตอาสาพ่นยาฆ่าไวรัส ท่ามกลางวิกฤตโควิด ระลอกใหม่

ความสุขของคนเรา อาจเหมือน หรือแตกต่างกัน แต่ความสุขของบางคน ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ โดยเฉพาะความสุขของชายผู้นี้ เค เยาวราช หรือ สมศักดิ์ ศรีเพ็ชร ในการทำหน้าที่จิตอาสา ที่ทำงานด้านนี้อย่างทุ่มเทและต่อเนื่อง ซึ่งก่อให้คำถามต่างๆ ตามมามากมาย

โดยสปริงเคยสัมภาษณ์เขาเมื่อปีที่แล้ว ช่วงที่โควิด-19 ระบาดระลอกแรก กระทั่งได้กลับมาพูดคุยกันอีกหน จากการระบาดระลอกใหม่ ที่ทำให้เขาต้องลงพื้นที่ต่างๆ อย่างถี่ขึ้น

สปริง : มาทำงานจิตอาสาอย่างนี้ แล้วเอาเวลาที่ไหน ไปทำมาหากิน ?

เค เยาวราช : ก็ทำอยู่ครับ ทำงานก็ทำอยู่ ก็มีขายของ ขายอาหาร ขายของเก่า และผมมีอาชีพเป็นนายหน้าขายที่ดิน ก็ทำอยู่ แต่ถ้ามีเรื่อง ไม่ว่าน้ำท่วม อุทกภัย หรือโควิด เมื่อมีเหตุการณ์อย่างนี้ บ้านเมืองเดือดร้อน พี่น้องประชาชนหรือชาวบ้านเดือดร้อนเนี่ย ผมอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ผมมีรถ มีอุปกรณ์ มีเครื่องมือที่จะไปทำงาน มีใจที่เกินร้อย ที่จะไปลุยกับมัน

สปริง : สิ่งที่ได้รับ จากการทำหน้าที่ตรงนี้ ?

เค เยาวราช : ที่ถามว่า เป็นจิตอาสาแล้วได้อะไร ผมจะบอกให้ฟัง ผมได้ความสุข ได้ความสบายใจ หลังจากเสร็จงานผมก็ยกมือท่วมหัว ท่องนะโม 3 จบ อุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย พี่น้อง ทหารตำรวจ จิตอาสา หรือว่าท่านที่ทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง หมอ พยาบาล แพทย์ที่ลงภาคสนาม เพื่อไม่ให้ท่านป่วย ท่านเจ็บ ไม่ให้ท่านมีอันตรายจากโควิด ให้มันผ่าน นี่คือสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน

สปริง : เคยท้อแท้บ้างไหม กรณีที่ถูกโจมตี หรือที่มีบางคนตั้งข้อสงสัย คุณอาจมีผลประโยชน์แอบแฝงในการทำหน้าที่จิตอาสา ?

เค เยาวราช : ถามว่าทุ่มเทกับจิตอาสา แล้วโดนด่า ผมว่า ด่านี่มีสัก 1 % ชมนี่ ผมว่ามี 99,999.99 % ส่วนที่ว่าสร้างภาพ ก็มี แต่คนเราเนี่ยเอาบุญเป็นที่ตั้ง ใครจะว่ายังไงปล่อยครับ พระก็ยังมีคนว่า ทหารตำรวจก็โดนว่าครับ

ทุกหน่วยงานมีคนดีและคนไม่ดี จิตอาสาก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ผมเองก็ไม่ได้ดี 100 % ผมก็เป็นปุถุชนคนธรรมดา บางครั้งผมไปลงพื้นที่ เจอคนเรื่องมาก ผมก็ไม่ทำให้ บางคนข้ามขั้นตอน ไม่รู้ขั้นตอนเป็นอย่างไร ก็จะเอาแต่ได้ ผมก็ไม่ยุ่งกับเขา

บางคนจะเอาเงินมาฟาดหัว ผมไม่ทำให้ คิดว่าเราเป็นจิตอาสาที่ต้องการเงิน เอาเงินมาฟาดหัว เสนอนู่นให้ เสนอนี่ให้ ขอบคุณครับ ไม่ผิด แต่ผมไม่ทำ ก็เท่านั้น

หลายคนมองว่าจิตอาสา เป็นงานที่ทำเพื่อจะหาเงิน จะสร้างภาพ เพื่อที่จะรับบริจาค ผมมีรับบริจาคไหมล่ะครับ ? ผมรับบริจาคตรงไหน ? ผมมีบัญชีบริจาคไหมครับ ? ถ้ามีแจ้งมา ผมจะได้แจ้งจับ แล้วท่านจำไว้เลย ผมไม่มีบัญชี (รับบริจาค) จนวันตาย ผมทำจิตอาสาจนวันตาย ผมจะไม่มีบัญชีให้ท่านโอนเงิน เพื่อบริจาคให้ผมไปทำงาน

สปริง : จุดเริ่มต้น จุดเปลี่ยน ที่ทำให้คุณทุ่มเทในงานด้านช่วยเหลือสังคม ?

เค เยาวราช : ก็คืออย่างนี้ เราตั้งใจทำงานเพื่อสังคมมานานแล้ว เราทำจิตอาสาเนี่ย เพราะเราเคยได้ข้าวกล่อง ได้ตังค์ 20 บาท แล้วก็เปลี่ยนชีวิตเรา แทนที่เราจะไปเป็นโจร เป็นขโมย หรือว่าทำอะไรไม่ดี เราก็เลยกลายเป็นคนที่มีจิตใจที่อ่อนโยน เป็นผู้ให้ เพราะมีคนให้ข้าวให้น้ำ ให้ตังค์เรา

มันก็ทำให้เราได้ฉุกคิดว่า วันหนึ่งถ้าเรามี เราจะแบ่งปัน มันเลยทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไป ค้าขาย ทำธุรกิจ ได้เงิน เราก็แบ่งใส่กระปุกไว้ แล้วก็เอาเงินตรงนั้นมาทำบุญ

สปริง : จากการลงพื้นที่ในช่วงโควิดระบาดระลอกใหม่ ได้พบเจออะไรที่สะเทือนใจบ้าง ?

เค เยาวราช : ผมเจอคนที่เคยขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างบอกว่า ไม่เหลืออะไรแล้ว รถโดนยึด เพราะไม่มีตังค์จ่ายค่างวด แล้วไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่ได้ เขาถามผม พี่จะให้ทำอย่างไร จะให้ไปเป็นโจรเหรอ 

ผมเองก็ไม่เคยเจอวิกฤตอย่างนี้ แม้กระทั่งน้ำท่วมมันก็ยังผ่านไปได้ แต่วิกฤตครั้งนี้มันหนักมาก มันทำให้หลายคนประคองตัวไม่อยู่

ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เดินเบลอเหม่อลอยเพราะบ้านโดนยึด แล้วก็ตกงาน เธอเล่าว่า คราวที่แล้วออกจากงาน ได้เงินชดเชย 6 เดือน แต่ใช้หมดแล้ว เพราะต้องเลี้ยงทั้งครอบครัว และตอนนี้หางานทำยังไม่ได้ 

ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ลำบาก ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เจอวิกฤต ไม่ใช่คุณคนเดียวที่เสียของรัก เสียรถเสียบ้าน ไม่ใช่คุณคนเดียวครับ แต่คุณต้องหาทางรอด แล้วก็ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ตกงาน หลายคนก็ตกงาน หลายคนก็หางานทำ แต่ทำไมหลายคนยังสู้ แล้วหลายคนหาทางดิ้นรน ไม่ยอมแพ้ต่อโรคโควิด-19 นี้ คุณก็ต้องสู้

สปริง : คราวนี้มาเข้าเรื่องวิธีการทำงานของคุณ ตอนนี้มีรูปแบบอย่างไรบ้าง ?

เค เยาวราช : การที่เราจะทำงานหรือบริหารจัดการ มันต้องใช้ประสบการณ์ การได้ลงพื้นที่ทำให้เราได้เห็นได้เข้าใจ แล้วมาปรับใช้ในแต่ละงาน ไม่อย่างนั้นงานจะไม่สำเร็จลุล่วง เพราะผมไปไหน ผมไปคนเดียว

แล้วก็มาสอนวิธีต่างๆ ให้กับ อสม. ให้กับชาวบ้าน ให้กับทหาร ตำรวจ กรมการปกครอง ให้กับสาธารณสุข ให้กับหลายๆ คนที่มาร่วมงาน เพื่อให้เขาเรียนรู้แล้วนำไปประยุกต์ใช้

เขามีการมาเรียนรู้ การพ่นยากับผม ถ้าเกิดสถานการณ์มันหนักขึ้น ผมก็ให้เครื่องเขาไป อย่างให้ตอน 6 โมงเช้า เดี๋ยวตอนเย็นผมมาเก็บ เอาไป 10 เครื่อง ยา 20 ขวด ป้ารับผิดชอบไป ผมก็ไปที่อื่นได้ ผมก็ช่วยคนได้หลายๆ จังหวัด หลายๆ ภาค หลายๆ อำเภอ หลายๆ หมู่บ้าน

แต่ผมเดินฉีดคนเดียว ทำไม่ได้หรอกครับ ตบมือข้างเดียว มันไม่ดัง ต้องตบมือหลายๆ ข้าง และถ้าตบกันเยอะๆ เป็นร้อยๆ คน มันก็จะดัง มันก็จะกังวาน ฟันเฟืองของจิตอาสา ฉันใดฉันนั้น คนเดียวทำงานไม่ได้ แต่ต้องทำให้คนหมู่มากเยอะขึ้น เยอะขึ้นเรื่อยๆ ความรู้ที่เราให้ เขาก็จะได้นำไปถ่ายทอดต่อๆ กันไป

สปริง : อยากให้คุณชี้แจงเรื่องตัวยาที่ใช้ฉีดพ่นอีกครั้ง จากที่เคยยืนยันว่า ไม่ใช่ยาฆ่าโควิด แต่เป็นยาฆ่าไวรัส และเมื่อมีการส่งไปให้ทางการตรวจสอบ ผลเป็นอย่างไรบ้าง ?  

เค เยาวราช : ตอนนี้สบายใจขึ้นครับ เพราะตอนนี้ผมก็ขออนุญาต ขอใบพ่นยา ซึ่งจะขอใบพ่นยา ก็ไปขอที่จังหวัดนนทบุรี อย. ไปที่เทศบาล แล้วเขาก็เอายาไปตรวจสอบ

เขาดูตัวยาแล้วโอเค ผ่าน เขาก็เลยให้ใบพ่นยาเรามา เราได้มาโดยถูกต้อง และเสียภาษีถูกต้อง ถึงปีเราก็ไปต่อ ถ้าเราเปลี่ยนยาโดยที่ไม่บอกเขา หรือไม่ใช่ยาตัวที่ส่งตรวจสอบเพื่อที่จะขอ อย. ในการพ่น เราก็มีความผิด เราก็จะโดนจับนะครับ ผมก็ไปพ่นตามที่เคยบอกกับทางเจ้าหน้าที่ แล้วลงบันทึกไว้

ในใบก็จะมีกำกับผลวิจัยของต่างประเทศ แล้วก็ของไทย  มียาใช้แก้อะไรบ้าง เขามีผลวิจัยหนาๆ เป็นเล่มๆ ซึ่งผมไม่สามารถให้คุณดูได้ ให้ก็เหมือนโฆษณายา เดี๋ยวมีคนไปซื้อยาหมด ตายเลย ผมก็หายาไม่ได้ เพราะมันก็จะมีคนกักตุน มีคนที่จะเอายาไปผสมขาย มีคนที่จะทำสารพัด ที่จะให้ได้เงิน ผมก็พยายามทำให้ดีที่สุดในส่วนของจิตอาสา

และทั้งหมดนี้ก็คือ เรื่องราวและความสุขของ เค เยาวราช ความรู้สึกอิ่มเอมที่ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม ความสุขของการเป็นผู้ให้ที่มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นผู้รับ

ที่การแบ่งปัน ทำให้เขารู้สึกว่า โลกใบนี้ แม้จะช่วงเวลาที่โหดร้าย แต่ก็ยังมีความหวังและความงดงาม เมื่อมนุษย์หยิบยื่นและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชมคลิป เค เยาวราช กับหลายคำถาม หลังฉีดพ่นยา ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ

บทความ "เค เยาวราช" กับข้อสงสัยมากมาย หลังฉีดพ่นยาที่อ้างว่า ป้องกันไวรัส