นักข่าวดัง ระบายหลังแม่ติดโควิดทั้งที่ฉีดวัคซีน เผยระวังตัวที่สุดแล้ว อย่าชะล่าใจ ชี้โควิด19 ไม่ได้ไกลตัวเราอีกต่อไป เพราะมันไม่รู้จะระวังอย่างไรให้รอด ขอให้มีกำลังใจ ไปด้วยกัน
วันที่ 29 มิ.ย. 2564 จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวชื่อดัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเผยแพร่เรื่องราวของครอบครัวเจ้าตัวที่ระวังโควิด-19 อย่างดี และคอยเป็นห่วงแม่ของเจ้าตัวที่มีอายุเยอะมาตลอด แต่ด้วยแม่ของเจ้าตัวเป็นแม่ค้าขายหมูในตลาด มีความเป็นห่วงลูกค้าว่าจะไม่มีเนื้อสัตว์ไปบริโภคจึงไปตลาดทุกวัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แม่ติดโควิด-19 ทั้งที่ฉีดวัคซีนไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
กรมการแพทย์ เริ่มแล้ว! ผู้ป่วยบัตรทอง นำร่อง รักษาโควิด-19 ที่บ้าน
“บิ๊กตู่” ส่งสารครบรอบ 89 ปี สถาปนาสำนักนายกฯ พาปชช.ฝ่าโควิด-19
แม่ผมติดเชื้อโควิด19 รายใหม่ครับเป็น 1ใน275คนของสงขลาที่ได้รับแจ้งผลวันนี้ และแม่ก็เป็น1ในผู้ป่วยโควิด19 กว่า2แสนคนทั่วประเทศจากคลัสเตอร์เมษา64
ทั้งที่นับแต่พบการระบาดระลอกแรก เราเฝ้าระวังแม่มาตลอด จนมารอบหลัง แม่เป็นแม่ค้าขายหมูที่ตลาดทรัพย์สิน แม่ไปตลาดทุกวันไม่เคยขาด ด้วยความห่วงลูกค้าประจำ ตลาดเป็นชีพจรของแม่ก็ว่าได้
ตื่นไปตลาดตี5 อยู่ตลาดถึงเที่ยงๆก็กลับบ้านไม่ไปไหน ตลาดจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงสำหรับทุกแห่ง เพราะเป็นที่เปิด คนเข้าออกมาก การคัดกรองน้อย โรงงาน คนเรือ ก็มีจัดเสบียงกันที่ตลาดและใช้ห้องน้ำรวมกันจำนวนมาก ผมก็รู้ว่าเสี่ยง จึงกำชับให้แม่ไปฉีดวัคซีน เพื่อจะได้ลดความรุนแรงลงถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมา
วันที่14 มิิถุนายที่ผ่านมา จึงได้คิวไปฉีด แม่ก็สมัครใจเพราะอธิบายกันจนเข้าใจว่่า กันดีกว่าแก้ หลังฉีดจึงโทรถามอาการข้างเคียงเกิดไหมทุกๆวันเช้าเย็น
7วันแรก ไม่มีอะไร บอกว่า สบายดี ราววันที่20หรือ21 บอกว่า รู้สึกปวดเมื่อยตัว คัดจมูกเหมือนนจะเป็นไข้หวัดใหญ่
เพื่อนที่เคยฉีดแอสตราเซเนกาไปก็บอกกว่าคงเป็นผลข้างเคียงจากวัคซีน จึงแนะให้กินยาพาราเซตามอล1เม็ด กินวันแรกยังเป็นอยู่ พี่ชายจึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล
หมอบอกไม่น่าจะมีอะไร อาจเกิดจากผลของวัคซีนได้ ให้รับพาราฯกับฟ้าทลายโจรมากิน
คราวนี้กินพาราทีละ2เม็ด /4ช.ม. เวลาถามบอกว่า กินยาแล้วหายปวดเมื่อย ตัวเบา เหงื่อออก ทำงานได้ ปกติ
พอหมดฤทธิ์ยา ก็เริ่มเป็นรุมๆอีก จึงกินแล้วก็ดีขึ้น
เมื่อ4วันก่อน โทรหาแม่บอกว่าวันนี้คััดจมูก ดมอะไร ไม่มีกลิ่น น้ำหอมก็ไม่มีกลิ่น เลยให้หลานพากลับไปหาหมอที่โรงพยาบาล แล้วขอตรวจสวอปด้วย ให้แน่ใจ
เพราะแม่ไม่พบว่า เคยสัมผัสใครที่ว่่าป่วยมาก่อนหน้า ทั้งที่บ้านและตลาด วันนั้นจนท.สวอปให้แต่เฉพาะแม่ เพราะเล่าอาการแล้วขอตรวจเอง
ส่วนหลานสาวเขาไม่ตรวจให้ วันนั้นที่ร.พ.สงขลา มีพนักงานบริษัทเรือน้ำมัันหลายร้อยคนมารอตรวจ
จากวันนั้น โทรหาเช้าถามอาการ แม่บอกได้กลิ่นเหมือนเดิมแล้ว กินอาหารรู้รส จึงสั่งทุเรียนภูเขาไฟไป2ลูก แม่กินแล้วว่าอร่อยมาก
ถามว่า หายใจออกไหม บอกว่าดีขึ้น ไม่อัดอัด ฟังเสียงก็ดีขึ้น ถามว่าได้กลิ่นไหม บอกว่่า ปกติดี อาจจะเพลียๆนิดหน่อย
ผ่านมาถึงช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผลตรวจเป็นบวก มีเชื้อโควิด19 ต้องไปเข้าโรงพยาบาลสนามทันที
โทรถามทางโรงพยาบาลด้วยตัวเเองเขายืนยันผลตามนั้น หลานจึงไปส่ง เพื่อจะได้ตรวจในฐานะเสี่ยงสูงด้วย
แม่โทรบอกว่า ไม่ต้องห่วงแม่นะหมอคุยทางวีดีโอคอลที่โรงพยาบาลสนามเก้าเส้ง แล้ว อาการเหมือนที่เล่าให้ลูกฟัง...
แม่ไม่มีโรคประจำตัว แม้จะ74ปี แต่ทำงานทุกวัน ไม่เคยขาด ถึงตอนนี้ก็ยังคงหาว่าใครติดใคร มาจากไหนยังไม่ได้
ไทม์ไลน์ มีแค่บ้านกับตลาด.......ทำให้แม่ไม่คิดว่าจะติดเชื้อได้ อาการที่เกิดขึ้นมา จึงเข้าใจกันว่า เป็นข้างเคียงวัคซีน ที่คนอื่นเขาเป็นกัน
ไปหาหมอ2ครั้ง ก็ไม่ระบุว่า.อาการนั้นเป็นอะไร ให้กินพารารอดูอาการ
ดีที่ขอให้ตรวจ รอผลตรวจ4วันจึงออกมา
ยังคิดว่า ไม่น่ามีอะไร เพราะนานขนาดนี้ ถ้ามีเชื้อก็คงไม่รอผลนานถึง4วันออกแต่เขาว่า รู้วันนี้
โควิด19 ไม่ได้ไกลตัวเราอีกต่อไป มันใกล้เรามาทุกที แม่และผมไม่ได้ว่าใคร นำมาติด เพราะไม่มีใครอยากจะติดกันมา
แต่นับจากนี้ เราต้องระวังไม่พอ เพราะมันไม่รู้จะระวังอย่างไรให้รอดร้อยเปอร์เซ็นต์
แม้แต่คนขังอยู่ในเรือนจำยังติด....
คนมีอิสระ จะไปเหลืออะไรได้
เพราะแม้วัคซีนจะเป็นหนึ่งในความหวัง แต่แม่ฉีดเข็มแรกไปไม่ถึงสัปดาห์ อย่าว่าจะมีภูมิเลยครับ
โรคนี้พิเศษไปเยี่ยมไปหาไม่ได้ ได้แต่โทรให้กำลังใจ และคนไข้ก็ใช้มือถือได้ ก็ขอให้กำลังแม่และคนที่ป่วยและครอบครัวคนป่วยด้วย
ขอให้มีกำลังใจ....ไปด้วยกัน ก็อย่าชะล่าใจ มันอาจจะถึงเราในไม่ช้าก็เร็ว
เราทำดีที่สุดของเราแล้วอะไรจะเกิดกับเราเราก็ต้องยอมรับ และสู้ด้วยพลังใจที่มีครับ