จับตาน้ำท่วม! กระทบส่งออก "ข้าว-ข้าวโพดหวาน"

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ส่งผลกระทบกับผลผลิตการเกษตร ทำให้ผู้ส่งออกกังวลผลกระทบต่อการส่งออกในอนาคต

[caption id="attachment_81765" align="aligncenter" width="715"] ร้อยตำรวจโทเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย[/caption]

ร้อยตำรวจโทเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ วางแผนที่จะลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยประเมินว่าผลผลิตอาจจะน้อยลง เพราะผลกระทบจากน้ำท่วม และถ้าผลผลิตลดลงจะส่งผลต่อการส่งออกข้าวหอมมะลิปี 2561 สำหรับ ข้าวหอมมะลิที่กำลังปลูกในขณะนี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป

ในขณะที่การส่งออกข้าวในช่วงนี้ ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพราะข้าวที่ส่งออกช่วงนี้เป็นข้าวเก่า โดยในช่วง 6 เดือน แรกของปีนี้ ไทยส่งออกข้าวหอมมะลิได้ 1.2 ล้านตัน เทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ลดลง 1.5%

แต่ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีแนวโน้มดีขึ้น โดยราคาส่งออกข้าวหอมมะลิชนิดพิเศษ วันที่ 9 สิงหาคม อยู่ที่ตันละ 887 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับรอบเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา หรือ วันที่ 12 กรกฎาคม อยู่ที่ตันละ 808 ดอลลาร์สหรัฐ เพราะตลาดโลกต้องการข้าวไทยหอมมะลิไทยมากขึ้น

ด้าน นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวโพดหวาน เพราะภาคเหนือเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดหวานที่สำคัญของไทย ซึ่งก่อนหน้านี้สมาคมฯ คาดการณ์ว่า การส่งออกข้าวโพดหวานปีนี้จะเพิ่มขึ้น 5-10% แต่ต้องรอดูว่าน้ำท่วมรอบนี้ส่งผลกระทบกับผลผลิตข้าวโพดหวานแค่ไหน

ในขณะที่การส่งออกอาหารแปรรูปในช่วงครึ่งหลังปีนี้ มีปัจจัยเสียงที่ต้องจับตาดู 3 ประเด็น คือ 1.วัตถุดิบอาหารทะเลในประเทศลดลง จากการจัดระเบียบการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ในขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบทำได้เฉพาะจากประเทศที่มีการควบคุมการประมงเช่นเดียวกับไทย 2.ผลผลิตพืชเกษตรปีนี้ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะแล้งบางพื้นที่ เช่น สับปะรด ทำให้ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ต้องรอดูว่าผลผลิตพืชเกษตรจะเข้าสู่ตลาดเพียงพอกับความต้องการของผู้แปรรูปหรือไม่ 3.เงินบาทแข็งค่ามากสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินในภูมิภาค ไม่เอื้อต่อการรับคำสั่งซื้อ และกระทบต่อการวางแผนธุรกิจ