HUMAN ก้าวขึ้นสู่ผู้นำอันดับ 1 ทางด้าน HR Tech ของเอเชียแปซิฟิก

ภายหลังจากการดำเนินธุรกรรมในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มบริษัท ฮิวแมนิก้า ให้บริการลูกค้าได้กว่า 5,000 ราย ซึ่งคิดเป็นจำนวนพนักงานในระบบรวมกันมากกว่า 2 ล้านคน แบ่งเป็นลูกค้าของ HUMAN ที่มีประมาณ 800,000 คน จากจำนวนประชากร 70 ล้านคน และลูกค้าของ DataOn ที่มีจำนวนพนักงานลูกค้าในระบบ 120,000 คน จากจำนวนประชากร 250 ล้านคน และครอบคลุมพื้นที่ให้บริการมากกว่า 20 ประเทศ โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดของโลก โดยผลจากการควบรวมในครั้งนี้จะทำให้ Humanica Group ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ทางด้าน HR โซลูชัน และ HR Tech ในภูมิภาค

การทำรายการทั้งหมดจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้น และขออนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล โดยคาดว่าจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในช่วงเดือนมีนาคมปี 2565 ที่จะถึงนี้

โดยกลุ่มบริษัท DataOn คาดการณ์ว่าจะมียอดขายในปี 2564 ประมาณ 330 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 29% ในขณะที่ Humanica Group คาดการณ์ว่าจะมียอดขายในปี 2564 ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท และ ยังสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 24% ซึ่งศักยภาพของทั้งสองบริษัท จะทำให้ในปี 2565 น่าจะมีแนวโน้มเติบโตกำไรสุทธิได้ไม่ต่ำกว่า 25%

การลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ควบรวมกิจการในครั้งนี้ เชื่อว่าจะสร้างมิติใหม่ให้แก่วงการ HR Tech เพราะได้ผสานการให้บริการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ผ่านการให้บริการจากพนักงานกว่า 1,000 คน ซึ่งจะมีพนักงานในกลุ่ม IT รวมกันกว่า 300 คน และกว่า 200 คนมาจาก DataOn ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีให้กลุ่มบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี

นายสุนทร เด่นธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัท ฮิวแมนิก้า รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ผนึกกำลังกับบริษัท DataOn ที่มีความโดดเด่น ทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นจุดแข็งสำหรับเราในอนาคต โดยการควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญให้บริษัทของเราสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีรายใหม่ในตลาดภูมิภาคอาเซียน ซึ่งผลิตภัณฑ์ และบริการที่ผนวกรวมขึ้นใหม่นี้จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยให้เราสามารถพัฒนาวิเคราะห์  และสร้างโซลูชันใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคตได้อย่างไม่รู้จบ นอกจากนี้วัฒนธรรมองค์กรของทั้งสองบริษัทมีความสอดคล้องกันเป็นอย่างดี ซึ่งจะสามารถสร้างโอกาสให้พนักงานมีความก้าวหน้าในอาชีพได้มากขึ้น เราตั้งตารอวันที่ทีมงานของทั้งสองบริษัทจะได้ทำงานร่วมกัน และส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานซึ่งกันและกันให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป”

Mr.Gordon Enns กล่าวเพิ่มเติมว่า “DataOn เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก ซึ่งเป็นค่านิยมองค์กรที่เรายึดมั่นเสมอมา หลังจากการควบรวมกิจการครั้งนี้ ลูกค้าของเราจะยังคงได้รับประสบการณ์ในการบริการที่ดีเยี่ยม อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงบริการ และโซลูชันได้มากขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างยั่งยืน และสร้างความได้เปรียบในอุตสาหกรรม”