svasdssvasds

กรมวิทย์ฯ เผย พบคนไทยป่วยโอไมครอนสะสม 25 ราย รวม 205

กรมวิทย์ฯ เผย พบคนไทยป่วยโอไมครอนสะสม 25 ราย  รวม 205

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เผยล่าสุด การแพร่ระบาดโควิด -19 ในไทยมีเพียง 2สายพันธุ์ คือ เดลต้า และโอไมครอน ขณะเดียวกัน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนในประเทศ 25 รายแล้ว

นายแพทย์ ศุภกิจ  ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  แถลงสถานการณ์ COVID-19 โดยระบุว่า ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนสะสม 205 คนโดยพบโอไมครอนในกลุ่มผู้เดินทางมาจากต่างประเทศถึง 52.9% จากจำนวน 211 ตัวอย่าง ทำให้ภาพรวมสายพันธุ์โอมิครอนในไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

โดย 205 คน แบ่งเป็น 180 คน มาจากต่างประเทศ อีก 25 คนยังรับเชื้อจากผู้มาจากต่างประเทศทั้งหมด โดยมีคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุด คือ คลัสเตอร์สามี-ภรรยา จ.กาฬสินธุ์”

กรมวิทย์ฯ เผย พบคนไทยป่วยโอไมครอนสะสม 25 ราย  รวม 205

นายแพทย์ ศุภกิจ ยังได้เผยข้อกังวลเรื่องของความสามรถในการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน จากการทดลองในฮ่องกงพบว่ามีความสามารถในการแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์เดลต้าถึง 70 เท่า  แต่ไม่มีการทำอันตรายต่อเนื้อปอดเท่าสายพันธุ์เดลต้า
ขณะที่ ในการ แพร่ของประเทศอังกฤษพบว่าในกรณีของสายพันธุ์โอไมครอนมีการแพร่ระบาดให้คนในครอบครัวเร็วถึง 10.3 เท่า  และพบว่าในจำนวนผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ทั้งนี้ข้อมูลการ ศึกษาจากหลายหน่วยงานมีความเห็นตรงกันว่าการรับวัคซีนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันสายพันธุ์โอไมครอนได้ 

กรมวิทย์ฯ เผย พบคนไทยป่วยโอไมครอนสะสม 25 ราย  รวม 205

ขณะที่ข้อมูลการเฝ้าระวังสายพันธุ์ในประเทศไทย ยังพบว่า สายพันธุ์หลักที่มีการแพร่ระบาดยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตา โดยจากการตรวจในช่วง  20-23 ธันวาคม พบเป็นสายพันธุ์เดลต้า ประมาณร้อยละ 83.3 และสายพันธุ์โอมิครอนร้อยละ16.2

การติดตามการระบาดของ สายพันธุ์โอไมครอน ประเทศไทยมีการติดเชื้อแล้ว 25 ราย ซึ่ง ยังเชื่อมโยงกับผู้เดินทางจากต่างประเทศ กลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังคือ คัสเตอร์ที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ที่พบการติดเชื้อรวม 22 ราย จากสองสามีภรรยาที่เดินทางกลับเบลเยียม  และมีการเดินทางไปพบปะครอบครัวจนมีการแพร่ระบาด

นอกจากนี้ก็เป็นกรณีที่รายงานไปแล้ว ที่เชื่อมโยงจากผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศทั้ง ภรรยาของนักบิน แม่บ้านโรงแรม และ ครอบครัวของผู้เดินทางกลับจากการร่วมพิธีทางศาสนา  ซึ่งทั้งยังอยู่ในระบบการเฝ้าระวัง

ทั้งนี้นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่าการตรวจยังคัดแยกสายพันธุ์ในขณะนี้ยังตรวจทุกรายที่พบผลบวกเเนื่องจาก ยังเป็นการระบาดในกลุ่ม ผู้เดินทาง แต่หากในอนาตคมีการระบาดเป็นกลุ่มวงกว้าง การตรวจแยกสายพันธุ์จะดำเนินการสุ่มตรวจจากกลุ่มตัวอย่าง คาดว่า การระบาดในประเทศที่มีการปฏิบัติตามมาตรการ และมีการฉรดวัคซีน จะมีการระบาดน้อยกว่ากลุ่มประเทศที่ไม่มีมาตรการใดๆ ซึ่งประเทศไทยมีมาตรการที่ชัดเจน การระบาดต่าจะอยู่ในวงควบคุม

ด้านนพ.เฉวตสรร นามวาท กล่าวถึง การเปิดให้ผู้เดินทางเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ทางท่าอากาศยาน โดยตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 พฤศจิกายนมีผู้เดินทางเข้ามา 133,061 เดือนธันวาคม 205,568 คน โดยเดือนธันวาคมมีผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น เกือบ 1 เท่าตัว สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 5 อันดับแรก คือเ ยอรมนี สหราชอาณาจักร อเมริกา รัสเซีย ฝรั่งเศส ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาในระบบเทสแอนด์โก และ sandbox

สำหรับผู้ติดเชื้อในระบบ Test and Go มีผู้ติดเชื้อ 334 รายจากผู้เดินทาง 131,181 หรือเป็นจํานวนผู้ติดเชื้อ 0.19 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกรณีผู้ที่เดินทางเข้ามาผ่านระบบ sandbox พบผู้ติดเชื้อ 58 ล้าน ส่วนจำนวนผู้ที่เข้าระบบ qurantine พบผู้ติดเชื้อ 133 ราย หรือพบอัตราการติดเชื้อ 3% 

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่มาในระบบ Test and go ขณะนี้มีการยกตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่วันที่ 16-17 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 20 คน

อัตราการติดเชื้อจำแนกตามประเทศต้นทาง 10 อันดับ ตั้งแต่วันที่ 1 ถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยสะสม 205,568 ราย อัตราการติดเชื้อ ของผู้เดินทางเข้าประเทศไทย เป็นชาวเยอรมนี 27 ราย ชาราชอาณาจักร 88 ราย สหรัฐอเมริกา 69 ราย รัสเซีย 35 ราย และฝรั่งเศส 28 ราย

related