แฟนคลับ Ana de Armas ฟ้อง Universal Pictures ฐานตัดนักแสดงสาวออกจากฟิล์ม

เป็นเรื่องจนได้เมื่อแฟนคลับของสายลับสาวคิวบา ปาโลมา (Paloma) ที่เปี่ยมไปด้วยความน่ารัก ขี้เล่น และสวยคมเมื่อถึงคิวบู๊ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงสาวคิวบา อย่าง อนา เดอ อาร์มาส (Ana de Armas) วัย 33 ปี ที่แย่งซีนอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง James Bond No Time to Die เจมส์บอนด์ภาคล่าสุด ที่แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) มารับบทสายลับพยัคฆ์ร้าย

แฟนคลับของนักแสดงสาวอนา เดอ อาร์มาส สองคนอย่างคอเนอร์ วูลฟ์ (Conor Woulfe) และ ปีเตอร์ ไมเคิล รอสซ่า (Peter Michael Rosza) ทำการฟ้องสตูดิโอยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส (Universal Pictures) เป็นเงินชดเชยอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์ (165 ล้านบาท) เนื่องจากถูกทำให้เข้าใจผิดและไปเช่าภาพยนตร์เรื่อง "Yesterday" ในปี 2019 เพราะพวกเขาเชื่อว่าอนา เดอ อาร์มาส จะอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากตัวอย่างและสื่อส่งเสริมการขาย

ภาพยนตร์เรื่อง "Yesterday" ไม่มีการปรากฏตัวของอนา เดอ อาร์มาส ทั้งๆ ที่เธอรวมอยู่ในการตลาด

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• เจมส์ บอนด์ 007 กับ 7 พยัคฆ์ร้าย ตลอด 59 ปี
• James Bond No Time to Die เจมส์ บอนด์ 007 ภาคใหม่ ฉายพร้อมกัน 7 ตุลาคม 2564
• หวนคืนสู่โลกเวทมนตร์ กับ Harry Potter ศิลาอาถรรพ์ ตำนานแห่งความอิ่มเอมใจ

วูลฟ์ และ รอสซ่า กล่าวว่า พวกเขาแต่ละคนจ่ายเงินประมาณ 3.99 เหรียญ (132 บาท) เพื่อเช่าภาพยนตร์เรื่อง "Yesterday" พร้อมระบุว่า - หากไม่ใช่เพราะ "การโฆษณาที่ผิดพลาดหลอกลวงและทำให้เข้าใจผิด" ของ Universal Pictures พวกเขาคงไม่จ่ายเงินเพื่อชมภาพยนตร์

โจทก์อ้างว่า Universal Pictures ใช้ "ชื่อเสียง รัศมี และความเฉลียวฉลาดของอนา เดอ อาร์มาส ในการโปรโมตภาพยนตร์โดยรวมเธอไว้ในฉากในตัวอย่างภาพยนตร์ที่โฆษณา "Yesterday"

ตัวหนังเองซึ่งกำกับโดยผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอังกฤษ แดนนี่ บอยล์ (Danny Boyle) เป็นเรื่องเกี่ยวกับแจ็ค มาลิค รับบทโดยฮิเมช พาเทล (Himesh Patel) นักร้อง-นักแต่งเพลงที่มุ่งมั่น ซึ่งค้นพบว่าเขาคือคนเดียวในโลกที่สามารถจดจำวงในตำนานอย่าง เดอะบีทเทิลส์ (The Beatles) ได้หลังจากเกิดเหตุการณ์ประหลาด

จากนั้นแจ็คก็พุ่งทะยานสู่ชื่อเสียงไปทั่วโลกโดยอ้างว่าดนตรีของวงเป็นเพลงของเขาเอง

อนา เดอ อาร์มาส มีกำหนดจะปรากฏตัวเป็นความรักให้กับตัวละครหลักใน "Yesterday" แต่ฉากของเธอถูกลบออกจากการตัดต่อครั้งสุดท้าย

Universal Pictures อ้างว่า "ชื่อเสียงของอนา เดอ อาร์มาส ไม่สามารถเพิ่มยอดขายตั๋วและเช่าภาพยนตร์ได้" ซึ่งโจทก์กล่าวว่านำสตูดิโอใช้ อนา เดอ อาร์มาส ในสื่อส่งเสริมการขายเพื่อส่งเสริมภาพยนตร์

ผู้กำกับบอยล์ ให้สัมภาษณ์ว่า การแสดงของ อนา เดอ อาร์มาส ในการตัดต้นฉบับของภาพยนตร์เรื่องนี้ "ยอดเยี่ยม" และ "เปล่งประกาย"

เคยมีคดีความที่คล้ายคลึงกันนี้ในปี 2011 เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง "Drive" ของไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) โจทก์กล่าวหาว่าสื่อโฆษณาของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ดูเหมือนเป็น "ภาพยนตร์การไล่ล่า การแข่งขัน หรือหนังแอ็คชั่นความเร็วสูง" คล้ายกับ "The Fast and the Furious" โจทก์กล่าวว่าการแสดงตัวอย่างล้มเหลวในการสะท้อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้รวม "ละครที่มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและจังหวะช้าหลายช่วง" โดยมีช่วงเวลาแสดงความรุนแรงอย่างโจ่งแจ้ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในปี 2013