"วลาดิเมียร์ ปูติน" ประธานาธิบดีรัสเซีย มีสินทรัพย์เท่าไหร่ ?

byNatt W.

01 Mar 2022

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย มีสินทรัพย์เท่าไหร่ หากต้องการเป็นตัวเลขที่แน่ชัด อาจไม่สามารถระบุได้ แต่สามารถประมาณการได้

สหรัฐฯ และพันธมิตรยุโรป ประกาศคว่ำบาตรวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่หาได้ยากยิ่งจากการพุ่งเป้าไปที่ความมั่งคั่งส่วนตัวของผู้นำ ไม่ใช่ตัวประเทศเอง

ทว่ามาตรการคว่ำบาตรนี้อันเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ เพราะ ประการแรกไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า วลาดิเมียร์ ปูติน มีสินทรัพย์ที่แน่นอนเท่าไหร่ ได้เพียงแต่คาดการณ์ว่าน่าจะมีมูลค่าอยู่หลายพันล้านดอลลาร์ และประการที่สองการคว่ำบาตรครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อตัวประธานาธิบดีรัสเซียมาก-น้อย เพียงใด

ประธานาธิบดีปูตินแทบไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ของเขา แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ถูกซ่อนอยู่หลังแผนการเงินที่ซับซ้อนซึ่งจัดโดยคนสนิทของเขา ตามการรายงานของ "ปานามาเปเปอร์ส" (Panama Papers) ในปี 2016 โดยสมาคมนักข่าวสืบสวนนานาชาติ (International Consortium of Investigative Journalists) ในบรรดาสินค้าฟุ่มเฟือยที่เชื่อมโยงกับเพื่อนและครอบครัวของปูตินแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเขา เช่น เรือยอทช์ขนาดใหญ่มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ (3.26 พันล้านดอลลาร์) และพระราชวังทะเลดำ (Black Sea palace) ที่ถูกกล่าวหาว่าสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานส่วนตัวของปูตินเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

ในหน้ากระดาษ ประธานาธิบดีรัสเซียดูเหมือนข้าราชการที่ถ่อมตน ในปี 2018 ปูตินได้ยื่นประกาศรายได้อย่างเป็นทางการซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนต์ขนาด 800 ตารางฟุต (74 ตร.ม.) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พร้อมด้วยรถยนต์ยุคโซเวียตสองคันและรถบรรทุกแบบออฟโรด

เครมลิน รายงานว่า รายรับต่อปีของปูตินอยู่ที่ประมาณ 140,000 ดอลลาร์ (4.56 ล้านบาท) ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขที่หวือหวาอะไรในรัสเซีย และแน่นอนว่ามันเทียบไม่ได้เลยกับนาฬิกาหรูจำนวนมากที่หมุนเวียนอยู่บนข้อมือของปูติน

ในปี 2018 บิล บราวเดอร์ (Bill Browder) นักลงทุนรัสเซียที่เป็นคู่ปรับของปูตินในการวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด กล่าวว่า "คอลเล็กชั่นนาฬิกาที่มองเห็นได้ของปูตินมีมูลค่าทวีคูณของเงินเดือนราชการของเขา ความมั่งคั่งเกิดจากการกรรโชกและการขโมยเงินจำนวนมหาศาลจากกองทุนของรัฐ"

2 แสนล้านดอลลาร์ (6.5 ล้านล้านบาท)

บราวเดอร์ ให้การต่อหน้าวุฒิสภาสหรัฐฯ ในปี 2017 ว่าเขาประเมินความมั่งคั่งของประธานาธิบดีรัสเซียว่ามีสินทรัพย์ประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ (6.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

โดยในปีนี้ Bloomberg Billionaires Index ได้จัดให้ อีลอน มัสก์ เจ้าของ Tesla เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.77 แสนล้านดอลลาร์ (9 ล้านล้านบาท)

ทฤษฎีความมั่งคั่งของปูตินประการหนึ่งชี้ให้เห็นว่าเขาได้กดดันผู้มีอำนาจของรัสเซีย คุกคามพวกเขาด้วยการจับกุมหรือไม่ก็รีดไถเงินสด หรือ หุ้นในบริษัทมาเป็นเครื่องบรรณาการให้เขา

อย่างไรก็ตาม การติดตามความมั่งคั่งของวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่สามารถพิสูจน์ได้ นิตยสาร Forbes ที่มีภารกิจหลักในการจัดอันดับสินทรัพย์ของชนชั้นสูงทั่วโลก ระบุว่า การหาสินทรัพย์ของปูตินเป็น "อาจเป็นปริศนาที่ยากจะเข้าใจมากที่สุดในการไล่ล่าความมั่งคั่ง"

รอสส์ เอส เดลสตัน (Ross S. Delston) ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันการฟอกเงิน กล่าวว่า เพียงเพราะประชาชนทั่วไปไม่รู้ว่าสินทรัพย์ของวลาดิเมียร์ ปูติน ซ่อนอยู่ที่ไหน แต่เราสามารถสรุปได้ว่าหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ติดตามทรัพย์สินของเขามาหลายปีแล้ว"

"หากรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วมกับสหภาพยุโรป จริงจังกับการติดตามทรัพย์สินของเขา ก็มีเป้าหมายมากมายที่ต้องโจมตี พวกเขาจะอยู่ทั่วโลก ภายในขอบเขตของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน" เดลสตัน กล่าว

แต่การแช่แข็งทรัพย์สินของวลาดิเมียร์ ปูติน จะขัดขวางไม่ให้เขาโจมตียูเครนต่อไปหรือไม่ ? แทบเป็นไปไม่ได้เลย

"เราไม่ได้กำลังพูดถึงการหยุดอะไรทั้งนั้น เรากำลังพูดถึงการลงโทษเขา" เดลสตัน กล่าว

ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการคว่ำบาตรไม่มีผล พวกเขาอาจไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินทั้งหมดของปูติน แต่อาจบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของเขาในเวทีโลก

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่สหรัฐฯ จะกำหนดเป้าหมายเป็นประมุขแห่งรัฐด้วยการคว่ำบาตร แต่ตอนนี้ "ประธานาธิบดีปูตินกำลังถูกจัดให้เข้าร่วมกับกลุ่มเผด็จการอื่น ๆ เช่น คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ , อเล็กแซนเดอร์ ลูก้าเชนโก้ (Alexander Lukashenko) ประธานาธิบดีคนแรกของเบลารุส และ บาชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad) ประธานาธิบดีซีเรีย"

นอกจากนี้ เดลสตัน ยังเสริมด้วยว่า ใช่ว่าการลงโทษจะไร้ความหมายเสียทีเดียว "คนที่มีสินทรัพย์จำนวนมากมักจะยึดติดกับยอดทรัพย์สินของตน แม้ว่าจะมีเงินเหลืออยู่อีกเยอะก็ตาม"