ศบค.ยัน ยอดโควิดพุ่งวันเดียว 7.2 หมื่นคน อยู่ในระดับคาดการณ์ กรุงเทพฯ นำโด่ง

ศบค. ยันยอดติดเชื้อวันนี้รวม 72,478 ราย เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มทั้ง 2 ยอดยังเป็นแบบทรงๆ ไม่สูงมาก ห่วงผู้ป่วยอาการหนักมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (10 มี.ค.65) พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ รองผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด เปิดเผยว่า ทั่วโลกติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1.06 ล้านคน ถือเป็นแนวโน้มที่ลดลง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในรอบ 7 วัน พบว่า เกาหลีใต้ เยอรมนี และเวียดนาม มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ส่วนไทยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในรอบ 7 วัน เป็นลำดับที่ 19

สำหรับผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้ มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 22,984 คน ATK อีก 49,000 คน รวมประมาณ 72,000 คน ซึ่งเป็นไปในระดับที่คาดการรณ์ไว้ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศลดลง ขณะที่ผู้ป่วยระหว่างรักษาส่วนใหญ่ อยู่ในศูนย์แยกกักหรือรักษาที่บ้าน

สถานการณ์โควิด วันนี้ (10 มี.ค.65)

ทั้งนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 58,000 คน เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ อาการหนัก 1,238 คน เพิ่มขึ้นจากหลักร้อยมาเป็นหลักพัน และ 1 ใน 3 เป็น ผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 420 คน ดังนั้นจึงขอให้ผู้ป่วยที่อาการไม่หนักเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราว 57,000 คน ควรรักษาที่บ้านหรือชุมชน เพื่อสงวนเตียงไว้ให้ผู้ป่วยอาการหนัก

ศบค.ยัน ยอดโควิดพุ่งวันเดียว 7.2 หมื่นคน อยู่ในระดับคาดการณ์ กรุงเทพฯ นำโด่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• "CDC" เพิ่มไทยอยู่ในกลุ่มประเทศเสี่ยงโควิดสูงสุด แนะหลีกเลี่ยงการไปเยือน

• โควิดวันนี้ 10 มี.ค. 65 ติดเชื้อเพิ่ม 23,512 ราย เสียชีวิต 74 ราย

• งานวิจัยล่าสุดชี้ ติดโควิด-19 อาจเป็นอัลเซอร์เมอร์ สมองเสื่อมเร็วขึ้น

พญ.สุมนี เผยว่าการแบ่งให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น 4 ระยะ พิจารณาตามปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ การแอดมิตเข้าโรงพยาบาล การครอบคลุมการได้รับวัคซีน ความพร้อมเรื่องการทำแผนต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น

• ระยะที่ 1 เรียกว่า Combatting เพื่อควบคุมการระบาด ลดการรุนแรง
• ระยะที่ 2 เรียกว่า Plateau หรือ ระยะคงที่
• ระยะที่ 3 เรียกว่า Declining จะเป็นระยะการลดลงของผู้ติดเชื้อ
• ระยะที่ 4 เรียกว่า Post pandemic คือ ออกจากโรคระบาด เข้าสู่โรคประจำถิ่น เพื่อเข้าสู่ Endemic diseases