svasdssvasds

DSI ตรวจสอบคดีฉกทรัพย์ 200 ล้านบาท ของ สมเด็จพระวันรัต

DSI ตรวจสอบคดีฉกทรัพย์ 200 ล้านบาท ของ สมเด็จพระวันรัต

จากคดีมิจฉาชีพฉกทรัพย์ของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เสียหายมูลค่าสูงถึง 200 ล้านบาท DSI จึงเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าทรัพย์สินเหล่านี้มาจากที่ใด

สมเด็จพระวันรัต ฉายา พฺรหฺมคุตฺโต มีนามเดิมว่า จุนท์ พราหมณ์พิทักษ์ เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตประธานคณะสนองงานในสมเด็จพระสังฆราช และอดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

“สมเด็จพระวันรัต” ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระวันรัต ศรีวชิรญาณวงศวิวัฒ ปริยัติพิพัฒนพงศ์ วิสุทธิสงฆปริณายก ตรีปิฎกโกศล วิมลคัมภีรญาณสุนทร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดบวรนิเวศราช วรวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2552

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

แต่เชื่อว่าเพียงตำแหน่งปฎิบัติหน้าที่และภาระพิเศษมากมายของสมเด็จพระวันรัต ก็ยังไม่น่าเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินส่วนตัวมากมายถึง 200 ล้านบาทได้ หากไม่ได้มีการทำการอื่นใดๆนอกจากกิจของสงฆ์

ซึ่งล่าสุดยังได้มีการจับกุมตัวคนสนิทของสมเด็จพระวันรัตที่ได้ยักยอกทรัพย์สินไปกว่า 80 ล้านบาท และยังคงตรวจสอบว่ายังมีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ เพราะยังไม่ทราบจำนวนเงินที่แน่ชัด

หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมทรัพย์สินมากมายถึงมีความเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระวันรัตและคนสนิทที่เป็นลูกศิษย์ รวมแล้วหลายร้อยล้านบาท ซึ่งไม่น่าจะมาจากกิจของสงฆ์อย่างแน่นอน

DSI และเจ้าหน้าที่จึงได้คาดกล่าวหาว่า "เรื่องนี้ถือว่า เป็นการทุจริตครั้งใหญ่ และส่งผลกระทบต่อวงการสงฆ์ครั้งใหญ่กับการยักยอกทรัพย์จากพระชั้นผู้ใหญ่เป็นเงินจำนวนมาก"

ข่าวฉาวในวงการสงฆ์ครั้งนี้ทำให้วงการพระพุทธศาสนาเป็นที่เสื่อมศรัทธาความเลื่อมใสของประชาชนชาวไทย จึงทำให้เกิดแง่คิดว่าวงการสงฆ์และศาสนาของประเทศไทย ต้องมีการเร่งปรับปรุงแก้ไขด่วนในส่วนนี้และอนาคตที่อาจเกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้น คดีต่างๆในวงการสงฆ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับชาวพุทธและหมดความเลื่อมใสในที่สุด

related