svasdssvasds

นายกฯ ห่วง "โรคพิษสุนัขบ้า" ระบาด ขอ ปชช. ดูแลบุตรหลานระวังโดนกัด-ข่วน

นายกฯ ห่วง "โรคพิษสุนัขบ้า" ระบาด ขอ ปชช. ดูแลบุตรหลานระวังโดนกัด-ข่วน

​โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงใยความปลอดภัยของประชาชนจากสัตว์ในช่วงอากาศร้อน กรมควบคุมโรคเตือนช่วงนี้สัตว์อาจหงุดหงิดง่าย ประชาชนระวังตนเอง-บุตรหลาน ไม่ให้ถูกสุนัข-แมว กัด/ข่วน ลดความเสี่ยงรับเชื้อพิษสุนัขบ้า

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยพี่น้องประชาชนจากสภาพอากาศที่ร้อนมากในช่วงนี้ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพประชาชนเท่านั้น ยังรวมถึงความปลอดภัยจากสัตว์ด้วย

ซึ่งข้อมูลระบบสารสนเทศเพื่อการเฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รายงานสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า (ณ 15 เม.ย. 65) ปรากฏรายงานผลบวกโรคพิษสุนัขบ้า 30 วันย้อนหลัง (ตั้งแต่ 16 มี.ค. – 15 เม.ย. 65) ได้แก่ จังหวัดสงขลา ผลบวก 4 หัว 57.15% และอีก 3 จังหวัดคือ สมุทรปราการ พะเยา ชลบุรี มีผลบวกจังหวัดละ 1 หัว 14.29%

10 อันดับพื้นที่เกิดโรคพิษสุนัขบ้าสูงสุด 30 วันย้อนหลัง (ตั้งแต่ 16 มี.ค. - 15 เม.ย. 65) ได้แก่

  • สงขลา
  • สมุทรปราการ
  • พะเยา
  • ชลบุรี
  • ระยอง
  • จันทบุรี
  • ตราด
  • ฉะเชิงเทรา
  • ปราจีนบุรี
  • นครนายก

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานว่าในปี 2565 นี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 1 รายเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมาที่จังหวัดชลบุรี โดยมีประวัติสัมผัสกับสุนัขของเพื่อนบ้านที่นำมาฝากเลี้ยงข่วน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายธนกรกล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ยังปรากฏรายงานพื้นที่ต่าง ๆ เกี่ยวกับคนถูกสุนัขกัด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม มีโอกาสสูงที่เด็กจะไปเล่นกับสุนัขหรือแมวที่ไม่รู้จัก ประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว อาจทำให้สัตว์หงุดหงิดได้ง่าย กรมควบคุมโรค

กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า ให้ประชาชนระมัดระวังตนเองและบุตรหลาน ไม่ให้ถูกสัตว์เลี้ยงกัดหรือข่วน เพราะมีความเสี่ยงอาจทำให้ติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ รวมถึงให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข หรือแมวที่ไม่ทราบประวัติการฉีดวัคซีนที่ชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงการรับเชื้อพิษสุนัขบ้า

ขณะที่กรมปศุสัตว์ก็ได้ดำเนินการในการควบคุม ป้องกัน และกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้าเป็นอันตรายติดต่อได้ทั้งสัตว์และคน เป็นแล้วไม่มีทางรักษา ทางที่ดีที่สุดคือการควบคุมและป้องกันการเกิดโรคเท่านั้น

กรมปศุสัตว์จึงขอความร่วมมือผู้เลี้ยงสัตว์ทุกคนเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ ไม่ปล่อยวิ่งในที่สาธารณะ โดยขาดผู้ดูแล และไม่นำสัตว์เลี้ยงไปปล่อยทิ้งให้เป็นปัญหาต่อสังคมในอนาคต รวมทั้งให้พาสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าปีละ 1 ครั้ง 

5 ย. ในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า คือ

  • อย่าแหย่สัตว์
  • อย่าเหยียบบริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์
  • อย่าแยกสัตว์ที่กำลังกัดกัน
  • อย่าหยิบอาหารขณะสัตว์กำลังกิน
  • อย่ายุ่งกับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย

"หากถูกสุนัขหรือแมว กัด ข่วน ขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่หลาย ๆ ครั้งอย่างเบามือ ใส่ยาฆ่าเชื้อ หรือโพวิโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีอาจใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน หรือยาฆ่าเชื้ออื่น ๆ ที่บาดแผลทันทีหลังล้างแผลเสร็จ จากนั้นไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยใกล้บ้าน เพื่อวินิจฉัยและพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และให้กักสุนัข-แมว 10 วันเพื่อสังเกตอาการ หากสัตว์ตายลงให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ เพื่อส่งตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ และสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงขอให้พาสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามกำหนดเป็นประจำทุกปี” นายธนกรกล่าว

related