ตร. ปรามแจ้งข้อมูลหวังดิสเครดิต "ปริญญ์" ระวังมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ

โฆษก บช.น. เตือน ผู้เสียหายรายแจ้งข้อมูลหวังดิสเครดิต “ปริญญ์ พาณิชภักดิ์” อดีตนักการเมืองดัง จะถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จ แจงผู้เสียหายยังคง 14 รายยังไม่มีเพิ่มเติม ชี้ หากฝ่ายใดมีข้อมูลการวิ่งเต้นคดี ตำรวจนครบาลพร้อมตรวจสอบทันที

ความคืบหน้า กรณี ปริญญ์ พาณิชภักดิ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ถูกหญิงสาวหลายรายแจ้งความกล่าวโทษในข้อหากระทำอนาจาร-ล่วงละเมิดทางเพศ โดยมีการสอบสวนผู้เสียหาย 9 คน ที่เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม โดยรายสุดท้ายตามที่ ทนายตั้ม ษิทธา เบี้ยบังเกิด โพสต์ข้อความว่า ขอบคุณไฮโซหญิงรายหนึ่งที่จะเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเอาผิดในคดีเดียวกันนี้

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ล่าสุด พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษกนครบาล ซึ่งออกมาชี้แจงความคืบหน้าคดี ได้กล่าวถึงกรณีเหยื่อรายล่าสุดที่เข้าแจ้งความเพิ่มเติมว่า ได้ตรวจสอบไปที่ สน.ลุมพินี ครั้งสุดท้าย ทราบว่ายังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม แต่ได้แจ้งให้ ผกก.สน. ลุมพินี เตรียมพนักงานสอบสวนหญิงเพื่อรับแจ้งความไว้แล้ว โดยจะนำคำให้การที่ได้ไปรวมไว้กับสำนวนในคดีของผู้เสียหายทั้ง 9 คน ที่เข้ามาแจ้งความก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบก่อนว่า คดียังคงอยู่ในอายุความหรือไม่ หากยังอยู่ในอายุความและมีมูลพอที่จะสืบสวนได้ก็จะเร่งดำเนินการให้ทันที เช่นเดียวกับความคืบหน้าการสอบสวนคดีของผู้เสียหายทั้ง 9 คนที่แจ้งความมาก่อนหน้านี้ ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบคัดแยกจากอายุความ

ส่วนผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ยังไม่พบพฤติการณ์ไปยุ่งกับพยาน หลักฐาน หรือจะมีหลบหนี ซึ่งยังไม่มีการไปยื่นต่อศาลให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่วิ่งเจรจากับผู้เสียหาย จากการตรวจสอบยังไม่พบพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า มีนายตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ แต่หากทีมทนายความหรือผู้เสียหายมีข้อมูลก็สามารถนำมายื่นได พร้อมที่จะดำเนินการตรวจสอบให้ทันที

รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีที่ นายษิทธา ระบุว่า อาจมีผู้เสียหายบางคนที่เข้ามาดิสเครดิตคดี ว่า อยากฝากเตือนไปถึงผู้เสียหาย ที่เข้าแจ้งความอยู่ในขณะนี้หรือกำลังเตรียมจะเข้าแจ้งความเพิ่มเติมว่า หากจงใจที่จะให้ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือทำให้คดีดังกล่าวมีความปั่นป่วนวุ่นวาย จะเข้าข่ายการแจ้งความเท็จ ซึ่งมีโทษทางอาญา

หากฝั่งของผู้เสียหายหรือผู้ต้องหาได้รับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าวก็อาจถูกดำเนินคดีจากหลายทางได้จึงขอเตือนให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว