svasdssvasds

ฮือฮา! พยาบาลสาวขอลาออก หลังสอบติดทุนได้ทำงานกว่า 1 ปี ลั่นฉันอยากเป็นคนรวย

ฮือฮา! พยาบาลสาวขอลาออก หลังสอบติดทุนได้ทำงานกว่า 1 ปี ลั่นฉันอยากเป็นคนรวย

โซเชียลเเห่เเชร์ตำนานบทใหม่ ลาออกยังไงให้โลกจำ หลัง "พยาบาลสาว" ประกาศขอ "ลาออก" จากราชการ ลั่นอย่าเรียนจบแล้วกลายเป็นแค่บัณฑิต จงเป็นตำนาน

 เมื่อ "พยาบาลสาว" เจ้าของเฟซบุ๊ก Smook Sudarut โพสต์ภาพพร้อมข้อความประกาศขอกราบลาออกจากข้าราชการ ที่ทำให้มีคนกดไลค์กว่า 4 พันคน และเเชร์ไปแล้วกว่า 2 พันครั้ง หลายคนเข้ามาอวยพรให้เธอโชคดี และการลาออกครั้งนี้ของเธอจะเป็นตำนาน เพราะข้อความที่เธอใส่ไว้ในภาพ ไม่ว่าจะเป็น ความดีอาจจะไม่คงทน เเต่ความจนเรามั่นคงและคงที่ หรือฉันไม่ได้อยากเป็นคนเก่ง ฉันอยากเป็นคนรวย  เเละสุดท้ายลาหยุดครบเเล้ว เลยเหลือเเต่ลาออก ตอนเเรกเเค่หยอก ที่บ้านดันบอกให้เอาจริง

ทั้งนี้เธอได้เล่ารายละเอียดถึงชีวิตการทำงาน จนถึงเหตุผลของการ "ลาออก" ในครั้งนี้ไว้ว่า 

อย่าเรียนจบแล้วกลายเป็นแค่บัณฑิต จงเป็นตำนาน 

ตำนานแบบที่อาจารย์ยังด่าให้รุ่นน้องฟังอยู่ ทั้งที่จบมานานแล้ว

 ซึ่งตัวเธอสอบติดทุนได้เป็น "พยาบาล" การมาเรียนในวงการนี้ก็ไม่ได้มีจิตใจเมตตาปราณีอะไรนัก แค่ทำตามหน้าที่ลูกที่ดี ศิษย์ที่น่ารัก ในบางอารมณ์ถ้าคนไหนกวนตี_ใส่มากๆ เธอก็อยากหยุมหัวเหมือนกัน 

 เธอเรียนจบมาทำงาน ใช้ชีวิตแบบวนลูป(ตื่น กินข้าว อาบน้ำ ขึ้นเวร นอน ตื่น กินข้าว อาบน้ำ ขึ้นเวร)
ช่วงแรกอยู่ในตำแหน่งพนักงานประกันสังคมขึ้นเวรจนเงินเดือนหมื่น 7 ไม่ต้องใช้ เพราะแค่ค่าเวรก็ 3-4หมื่นแล้ว เพราะใช้สังขารแลกมา

แต่บ่อยครั้งที่การไปทำงานก็ทำให้เจออะไรบางอย่าง ไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง +ใช้ร่างกายมากๆ

มันเลยเกิดอารมณ์อยากลาออกบ่อยๆ หรือไม่ก็มองหาทางที่เหมาะกับตัวเองตลอด(ตลอดจริงๆ)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Future of Work อนาคตของการทำงานที่จะเต็มไปด้วยการขอ "ลาออก"

• The Great Resignation : การลาออกครั้งมโหฬารของคนทำงานทั่วโลก

• ครูสาวยื่นใบลาออก สุดทนสอนออนไลน์-ระบบประเมิน พูดแทนมนุษย์ครูทั่วประเทศ

ใช้ชีวิตมาเรื่อยๆเปื่อยๆ

แต่ระหว่างนั้นก็ไม่เคยปฏิเสธโอกาสที่เข้ามานะ มีสอบอะไรได้ก็ไปสอบ(เลือกบรรจุไปแม่ฮ่องสอน ปัตตานีก็ทำมาแล้ว) จนสุดท้ายได้บรรจุข้าราชการที่ กทม.

 ส่วนนึงก็ทำเพื่อตัวเอง หวังใจว่าการเป็นพยาบาล+ข้าราชการมีหน้าที่การงานการเงินที่มั่นคง จะทำให้แม่ ให้ครอบครัวสบายใจ

 แต่พออะไรที่มันไม่ใช่ มันก็เหมือนเราใช้ชีวิตไปวันๆ กับเงินเดือนหมื่น5+มีสิทธิข้าราชการ ที่ใครๆก็บอกว่ามั่นคง

อยู่มาจนได้ปีกว่าๆ เริ่มไม่เห็นคุณค่าของตัวเองต่องานที่ทำละ(จะบอกว่ามันไม่ใช่ ก็ไม่เชิง)

ประกอบกับเงินเดือนที่ได้มันสวนทางกับค่าครองชีพ

ตอนแรกจะย้ายกลับบ้านที่ระยอง ดำเนินการเตรียมเส้นทางพร้อม แต่ก็ปัดตกเพราะเรามองว่ายังไงก็ไม่พ้นชีวิตประมาณเดิม

เราเลยเริ่มมีความคิดที่จะไม่เป็นข้าราชการละ แต่!!!!ก็มีคนห่วงบวกพูดใส่ คงเตือนสติแหละ)

ในเรื่องที่ว่าเป็นข้าราชการมันมั่นคงแล้ว มั่นคงเพราะรัฐบาลเลี้ยงตอนแก่หลังเกษียณและไม่ถูกไล่ออกง่ายๆ

เรารับฟังนะ แต่คนหน้าเงินแบบเราอย่างที่บอก เรายังมองความมั่นคงก็คือความมั่งคั่ง ถ้ายังหาเลี้ยงตัวเองได้ และมีเงินใช้ยามฉุกเฉิน เราก็รู้สึกว่านี่คือความมั่นคงแล้ว

มั่นคงเพราะราชการถูกไล่ออกยาก

เออ….ก็นะ รู้ๆกัน

แต่ชีวิตเราทำไมต้องมานั่งทำงานแบบกลัวโดนไล่ออก? เราไม่ได้เกิดมาเพื่อได้ลองใช้ชีวิตแบบเต็มที่รึไง

บางคนคงมองว่าเราโง่ที่ทิ้งงานกับตำแหน่ง..ที่มีแต่คนอยากได้ไป

แต่ย้ำนะว่า…นิยามความสุขของชีวิตและเป้าหมายของการเกิดมาใช้ชีวิตอยู่มันไม่เหมือนกัน

แต่ละคนมันก็มีความชอบ และทัศนคติต่อความสำเร็จในชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนมองว่าข้าราชการคือความสำเร็จของตัวเอง เราก็เคยมีความคิดนั้น แต่พอได้มาเป็นแล้ว มันดันไม่ใช่ว่ะ

อาชีพมันก็คืออาชีพ เราคงไปห้ามหรือเปลี่ยนความคิดคนอื่นไม่ได้

ทุกอาชีพก็มีคุณค่าหาเงินเลี้ยงตัวเองได้เหมือนกัน แค่มีความสุขกับสิ่งที่ทำก็พอ

ขอแค่อย่าปิดกั้นตัวเอง และอย่าเป็นคนในแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น

ถ้าให้เราปล่อยให้ตัวเองเป็นในแบบที่คนอื่นอยากให้เป็น หรือเป็นแบบนั้นเพราะจำใจเป็น

แล้วเมื่อไหร่เราจะได้เป็นตัวเองในแบบที่ตัวเราอยากจะเป็นสักที

สุดท้ายเราชอบคำนี้

“ตั้งเป้าหมายชีวิตไว้ให้ไกล ทำได้ก็เป็นเรื่องดี

ทำไม่ไหว…อย่างน้อยก็รู้ว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆโดยไม่มีอุปสรรค”

#ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณที่ให้โอกาส

คนที่อยู่เบื้องหลังทุกคน

ที่มา : Smook Sudarut

related