svasdssvasds

"หมอชลน่าน" กางไทม์ไลน์เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล ไม่ปฏิเสธรวมเสียงล้ม ประยุทธ์

"หมอชลน่าน" กางไทม์ไลน์เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล ไม่ปฏิเสธรวมเสียงล้ม ประยุทธ์

"หมอชลน่าน" ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กางไทม์ไลน์เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล ย้ำ! หากสร้างทางตันทางการเมือง จะทำให้เกิดความวุ่นวาย พร้อมเผยพรุ่งนี้ร่วมค้านเคาะประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

หมอชลน่าน หรือ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงความคืบหน้าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ของพรรคการเมืองฝ่ายค้านว่า ในวันที่ 26 เม.ย. 65 นี้ "หัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านจะมีการประชุมผ่านระบบซูมเพื่อกำหนดประเด็นการอภิปรายและติดตามความก้าวหน้า เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเนื้อหาที่จะอภิปราย จากนั้นจะได้ข้อสรุปว่าจะอธิบายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลหรือจะอภิปรายทั้งคณะ"

ขณะเดียวกันได้จัดตั้งคณะทำงานหนึ่งชุดเพื่อพิจารณาประเด็นและเนื้อหาที่จะใช้ในการอภิปราย มีประธานวิปฝ่ายค้าน นายสุทิน คลังแสง เป็นประธาน และคาดว่าพรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากที่คณะกรรมาธิการกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งได้เสนอรายงานต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ค. 65 นี้ จากนั้นไป 1 สัปดาห์รัฐสภาจะใช้เวลาในการพิจารณาบรรจุระเบียบวาระการประชุมรัฐสภา  

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

โดยประเมินว่าร่างกฎหมายงบประมาณ จะเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันที่ 1-2 มิ.ย. 65 ส่วนร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งทั้ง 2 ฉบับรัฐสภาจะได้พิจารณาช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งฝ่ายค้านคาดหวังจะให้ร่างกฏหมายทั้ง 2 ฉบับบังคับใช้ก่อนที่จะมีการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายนหรือต้นเดือนกรกฎาคมจะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าจะมีการยุบสภาก่อนที่กฎหมายลูกจะจัดทำแล้วเสร็จหรือไม่ เนื่องจากอยู่ที่นายกรัฐมนตรีพิจารณาตัดสินใจ และย้ำว่าหากรัฐบาลไปสร้างทางตันทางการเมือง หรือเดดล็อกทางการเมือง จะทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวาย หากยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งไม่ได้ ก็จะเป็นปัญหา

ผู้นำฝ่ายค้าน ยังอ้างอิงถึงวงในคนการเมืองไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากจะเป็นปัญหาที่อาจนำไปสู่การล้มล้างประเด็นการยื่นตีความวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ย้ำว่าอย่างน้อยต้องให้มีการจัดทำกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งแล้วเสร็จไปก่อนถึงจะมีการยุบสภา 

นอกจากนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่าหาก สภาผู้แทนราษฎรเอาจริงเอาจังไม่ต้องการให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อ ก็ไม่รับร่างกฎหมายงบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2566 รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ต้องพูดถึง ซึ่งเชื่อว่าก็เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะหากมีเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่รับร่างกฏหมายงบประมาณนั่นหมายความว่ามีการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวแล้ว ว่ารัฐบาลไปต่อไม่ได้ 

ก่อนจะสรุปทิ้งท้าย 3 ประเด็นใหญ่ที่จะชี้ชะตาอนาคตของรัฐบาล 1. การพิจารณารับหลักการร่างกฏหมายงบประมาณปี 2566 ,2 การอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน และ 3. การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรี 

สำหรับการประสานเสียง ส.ส. ในสภาของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะร่วมโหวตในทิศทางเดียวกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านนั้น นายแพทย์ชลน่าน คาดหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นปัจจัยโน้มน้าวชักจูงให้ ส.ส.ราว 30 คน ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการประสานพรรคการเมืองใด แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อบ้านเมืองก็ถือเป็นวิธีการที่ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ว่าจะพูดคุยกับพรรคเศรษฐกิจไทยหรือพรรคการเมืองใด 

related