ถ้าค่าแรงขั้นต่ำขึ้น 492 บาท ผลดีเติมกำลังซื้อ ผลเสียธุรกิจเผ่นย้ายฐานผลิต
พามาดูผลดี ผลเสียถ้าค่าแรงขั้นต่ำขึ้น 492 บาท ผลดีเติมกำลังซื้อ ผลเสียธุรกิจเผ่นย้ายฐานผลิต ต้องจับตาดูต่อไปว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร
ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำใครได้ใครเสีย
เห็นข่าวว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำขึ้น492 บาท ภายในปี2565 นี้ หากมองในแง่ของแรงงานก็ต้องดีใจสิ จะรออะไร หลังรอมาหลายปีดีดัก หากมีค่าแรงที่เพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้มีเงินเก็บ มีเงินใช้ มีเงินออมมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจแบบไม่ดีแบบนี้ การมีเงินเพิ่มเข้ามาในกระเป๋านับว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เพราะจะทำให้เราไม่ขัดสน อีกทั้งยังมีเงินมาจับจ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น นี่คือส่วนที่ดีของการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในครั้งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
แรงงานย้ำ จะพิจารณารอบด้าน
เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 492 บาท ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน หลายคนก็ต้องจับตารอดูกันต่อไปว่าจะจบลงยังไง ล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาแรงงาน ย้ำ จะพิจารณารอบด้านน ออกมาเปิดเผยว่า ยืนยันว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน แต่ไม่ใช่ 492 บาท ทั้งนี้คาดว่าจะต้องพิจารณาจากค่าจ้าง รวมต้องดูปัจจัยเงินเฟ้อค่าครองชีพ ให้สอดคล้องกับความจริง และมาตรฐานทั่วโลก
ทั้งนี้กระทรวงแรงงาน เผยอีกว่าไม่ได้นิ่งนอนใจในการปรับตามข้อเสนอของหลายๆ ฝ่าย เพราะมองว่าค่าครองชีพ และภาวะเงินเฟ้อเพิ่มอย่างเห็นได้ชัดเจนจากกรณีสงครามรัสเซียยูเครน และโควิด เพราะฉะนั้นต้องเอาค่าแรงขั้นต่ำ ค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อมาเป็นตัวพิจารณาประกอบกัน ซึ่งมาตรฐานทั่วโลกใช้สูตรนี้หมด เพราะฉะนั้นต้องเอาค่าแรงขั้นต่ำ ค่าครองชีพ ภาวะเงินเฟ้อมาเป็นตัวพิจารณาประกอบกัน ซึ่งมาตรฐานทั่วโลกใช้สูตรนี้หมด
นายกรับถ้าปรับขึ้นหวั่นย้ายฐานผลิตไปที่อื่น
ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า เรื่องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ขณะนี้กำลังพิจารณาหารือกันอยู่ว่าหากจะขึ้นค่าแรง จะสามารถขึ้นได้เท่าไหร่ หากยังไม่ขึ้น ก็ต้องดูอัตราเงินเฟ้อซึ่งตอนนี้ก็น่าเป็นห่วง ทั้งนี้สิ่งที่กังวัชคือการย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า
อย่างไรก็ตามเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีภาคธุรกิจหลากหลายสมาคม ออกมาไม่เห็นด้วยในการปรับขึ้นค่าแรงในปี2565 นี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของไทยยังไม่ฟื้นจากผลกระทบโควิด และผลกระทบจากสงครามรัสเซีย ยูเครน ทำให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถ้ามาขึ้นค่าแรงอีกจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ อาจทำให้มีการปิดกิจการสูงขึ้น รวมถึงการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่ใช้แรงงานเข้มข้น ดังนั้นเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงต้องจับดูกันต่อไป
