EU ยุโรป โหวตผ่านแล้ว เลิกจำหน่ายรถยนต์น้ำมัน ภายในปี 2035 บังคับใช้รถยนต์ EV
การขยับตัวด้านสิ่งแวดล้อมของฝั่ง EU หรือยุโรปเริ่มแล้วในวงการรถยนต์ โดยผลโหวตเลิกจำหน่ายรถยนต์สันดาปหรือรถยนต์น้ำมันได้ผ่านเรียบร้อย ทำให้ในปี 2035 ประเทศยุโรปจะมีรถยนต์น้ำมันน้อยลงในประเทศอย่างแน่นอน
ทั่วโลกได้มีโครงการเกี่ยวกับการรักษาและพัฒนาสิ่งแวดล้อมและฝั่งยุโรปก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่มีการตั้งเป้าหมายที่จะลดการก่อคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยการเลิกจำหน่ายรถยนต์ประเภทสันดาป และใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทน
จากการลงมติได้ชนะคะแนนไปกว่า 339 ต่อ 249 เสียง กฎหมายดังกล่าวจะทำให้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน น้ำมัน-ไฮบริด หรือแม้กระทั่งปลั๊กอินไฮบริด จะไม่สามารถวางจำหน่ายได้อีกต่อไป เรียกว่าเป็นการบังคับใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- บริษัทสิงค์โปร์ไอเดียธุรกิจสุดครีเอทีฟ ให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าถึงที่
- ราคาลิเธียมดีดตัวขึ้น 5 เท่าจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่สูงขึ้น
- น้ำมันแพง อยากเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าเหมาะกับประเทศไทยแค่ไหน
ซึ่งเชื่อว่าหลากหลายค่ายรถยนต์อาจต้องเตรียมตัวและปรับตัวกันอย่างรวดเร็วจากการพิจารณาข้อกฎหมายครั้งนี้ อย่างไรก็ตามยังมีการถกเถียงถึงปัญหาของการผลิตพลังงานไฟฟ้าว่าจะเพียงพอต่อการใช้งานทั้งยุโรปหรือไม่
Oliver Zipse ประธานสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรป (ACEA) และ CEO ของ BMW กล่าวว่า อุตสาหกรรมของเขาอยู่ท่ามกลางแรงผลักดันในวงกว้างจากรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีรถรุ่นใหม่เข้ามาเรื่อย ๆซึ่งเขามองว่า ด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอนของสถานการณ์ที่ทั้งโลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันนั้น ยังเร็วไปที่จะสร้างกฎเกณฑ์ใด ๆ มาบังคับใช้ในระยะยาวเกินทศวรรษนี้
ประเทศไทยเราก็มีการสนับสนุนลดภาษีและเงินหนุนสมทบเพื่อให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน แต่ยังคงต้องดูต่อไป เพราะหากนำมาปรับใช้ๆกับไทย การลดคาร์บอนจำนวนมากจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยมีการใช้รถยนต์สันดาปเป็นจำนวนมาก
