svasdssvasds

กทม. ห่วงสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนกลุ่ม 608 เตือน สวมหน้ากาก และฉีดวัคซีน

กทม. ห่วงสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนกลุ่ม 608 เตือน สวมหน้ากาก และฉีดวัคซีน

กทม. เป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะประชาชนกลุ่ม 608 เตือน สวมใส่หน้ากากอนามัย และไปรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เตรียมรับสถานการณ์โควิด-19 ระบาดอีกครั้ง

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รอง ผู้ว่าฯ กทม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กทม. ครั้งที่ 24/2565 และได้เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ในกรุงเทพฯ มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ กทม. จึงเตรียมมาตรการเชิงรุกที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน เนื่องจากแม้อาการในกลุ่มนี้จะไม่รุนแรง แต่อาจนำเชื้อไปติดผู้ที่ใกล้ชิดหรือคนในครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์) ได้

หลังจากที่ประกาศผ่อนปรนมาตรการสวมหน้ากากอนามัย พบว่าเด็กนักเรียนมีการติดเชื้อมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กโต รวมถึงพบว่ากลุ่ม 608 ที่ติดเชื้อจะมีการครองเตียงผู้ป่วยวิกฤติเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ผศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รอง ผู้ว่าฯ กทม.

จากข้อกังวลดังกล่าว สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยจึงได้เตรียมพร้อมระบบส่งต่อ ศูนย์เอราวัณ อัตราการครองเตียง และจัดทำแผนสำรอง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยคาดการณ์จากสถานการณ์ที่อาจจะรุนแรงขึ้นในอีก 1 เดือน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

และเดินหน้าตามแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ผู้ที่รับวัคซีนเข็มล่าสุดมานานแล้ว โดยให้บริการเชิงรุกในชุมชน ควบคุมไปกับการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก Active Case Finding เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีฐานข้อมูลที่ละเอียดและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มเด็กนักเรียนสังกัด กทม. ระหว่างวันที่ 17 พ.ค. 65 ถึงวันที่ 4 ก.ค. 65 มีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 253,515 คน พบอัตราการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 0.74 % แบ่งเป็น นักเรียนระดับอนุบาล จำนวน 36,854 คน ติดเชื้อ 148 คน คิดเป็น 0.40% , ระดับประถมศึกษา จำนวน 176,496 คน ติดเชื้อ 1,375 คน คิดเป็น 0.78% , ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 35,706 คน ติดเชื้อ 304 คน คิดเป็น 0.85% และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 4,459 คน ติดเชื้อ 58 คน คิดเป็น 1.30 %

กทม. ได้ดำเนินมาตรการสร้างความปลอดภัย ป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษากรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 6 มาตรการหลัก 6 มาตรการเสริม 7 มาตรการเข้ม ดังนี้

6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) ได้แก่

  1. เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร (Distancing)
  2. สวมหน้ากาก (Mask Wearing)
  3. ล้างมือ (Hand Washing)
  4. ตรวจคัดกรอง (Testing)
  5. ลดแออัด (Reducing)
  6. ทำความสะอาด (Cleaning)

6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) ได้แก่

  1. ดูแลตนเอง (Self-Care)
  2. ใช้ช้อนส้อมส่วนตัว (My Spoon)
  3. ทานอาหารปรุงสุกใหม่ (Eating)
  4. ลงทะเบียนเข้า-ออก (Tracking)
  5. สำรวจตรวจสอบ อาการตนเอง (Self check)
  6. กักกันตนเองหากติดเชื้อ (Isolation)

7 มาตรการเข้ม ได้แก่

  1. ประเมิน Thai Stop Covid Plus (TSC+) และรายงานผลผ่าน MOECOVID
  2. ทำกิจกรรมกลุ่มย่อย (Small Bubble) หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมข้ามกลุ่มกัน
  3. จัดระบบการให้บริการอาหารตามหลักสุขาภิบาลและโภชนาการ
  4. อนามัยสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐาน (การระบายอากาศ การจัดการขยะ)
  5. แผนเผชิญเหตุ มีการซักซ้อม รวมถึงการเตรียมพร้อม School Isolation
  6. ควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออกสถานศึกษา
  7. School Pass สำหรับนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา (ข้อมูล TST ผลการตรวจคัดกรองเชื้อ ประวัติการรับวัคซีน)

กทม. ห่วงสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนกลุ่ม 608 เตือน สวมหน้ากาก และฉีดวัคซีน

"สถานบริการพักฟื้นผู้สูงอายุก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ กทม. เฝ้าระวัง หากพบการระบาดจะใช้วิธี Bubble Seal หากทำได้ หรือใช้วิธีการส่งต่อ เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่อาศัยร่วมกับกลุ่ม 608 หรือเป็นกลุ่ม 608 สวมหน้ากากอนามัยให้มากที่สุด หากมีข้อสงสัยว่ามีอาการให้รีบกักตัวเอง และไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ณ หน่วยบริการใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่" รองผู้ว่าฯ ทวิดา กล่าว

related