svasdssvasds

“เศรษฐา” ลั่นพ.ย.-ธ.ค.นี้ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาท กำลังศึกษา

“เศรษฐา”  ลั่นพ.ย.-ธ.ค.นี้ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาท กำลังศึกษา

นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ลั่น พ.ย.-ธ.ค.นี้ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายได้เริ่มดำเนินการศึกษาแล้ว พร้อมสั่งการอธิบดีสรรพากรคนใหม่รื้อภาษีในอัตราเหมาะสม

2 เรื่องที่น่าจับตามองสำหรับนโยบายลดค่าครองชีพ เพิ่มรายได้ของรัฐบาลใหม่ คือ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท และนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ล่าสุดมีความคืบหน้าจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขอขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำ เป็นหนึ่งในมาตรการระยะสั้นที่ต้องการดูแลประชาชน เชื่อว่าก่อนปีใหม่เราจะไปดูให้เหมาะสม ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค.66 จะเห็นค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 400 บาท โดยได้หารือกับเอสเอ็มอีและภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นว่าเขามีความหวัง และเราก็สามารถประกาศได้อย่างมั่นใจ ซึ่งเราจะมองให้ทุกมิติ

“ในปัจจุบันในภาคส่วนของแรงงานมีการให้มากกว่า 400 บาทอยู่แล้ว แต่ยังมีหลายยังหวัดที่ไม่ถึงส่วนนั้นก็ต้องไปดู ซึ่งจะทำให้เห็นก่อนปีใหม่ ช่วงพ.ย.-ธ.ค. เป็นประมาณ 400 บาท” นายกกล่าว

แรงงานไทยยังรอลุ้นปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ

ส่วนนโยบายรถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสาย จะทำภายใน 3 เดือนอาจจะยาก แต่จะเริ่มปฏิบัติการทันที โดยมีการหารือกับนักกฎหมาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่กระบวนการค่อนข้างยาก ทั้งการเชื่อมต่อ การใช้ตั๋วใบเดียว ทั้งนี้ยอมรับว่าหลายสายที่ไปดูมา วิธีการที่ขึ้นรถไม่เหมือนกัน จะต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้ง แต่ยืนยันว่าได้เริ่มดำเนินการแล้ว

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดยังคงต้องรอไปก่อน

อย่างไรก็ตามในส่วนของประเด็นแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ นายกฯ ได้พูดคุยกับอธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ ทั้งในเรื่องภาษีที่ดิน ภาษีโรงเรือน ภาษีมรดก ภาษีลดความเหลื่อมล้ำทั้งหลาย ซึ่งภาษีมรดก เก็บได้ประมาณ 200 ล้านต่อปี โดยหลักการของภาษีคือ มีรายได้มาก็ต้องจ่ายภาษี ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากอะไร ในอัตราที่เหมาะสม

“ผมยืนยันว่าความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาใหญ่ และหลักการง่ายๆ คือ มีรายได้มาจะต้องจ่ายภาษี แม้เป็นมรดก ในอัตราที่เหมาะสม เพราะล่าสุดสรรพากรได้มีกฎหมายบังคับใช้ให้เก็บภาษีเงินได้ผู้ที่มีการลงทุนต่างประเทศ ต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้วที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งกฎหมายที่ออกมาจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”

สำหรับกรณีมีการลงทุนในต่างประเทศ ถ้านำเงินกลับเข้ามาต้องเสียภาษี เริ่มต้น 1 มกราคม ซึ่งต่อยอดมาจากรัฐบาลที่แล้วที่ดูแลเรื่องความเหลื่อมล้ำ รัฐบาลจะมีออกมาเรื่อย ๆ โดยยึดหลักว่าต้องตอบโจทย์และยุติธรรมกับทุกฝ่าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related