เปิดวงถก รถไฟจะไปอโยธยา หาข้อยุติ โครงการรถไฟความเร็วสูงผ่านมรดกโลก
กลุ่มสภาวันอาทิตย์ จัดเวที สาธารณะ หัวข้อ “ รถไฟจะไป อโยธยา “ ถกประเด็นกันอย่างร้อนแรง โดยมีผู้เข้าร่วม ทั้งสองข้างความคิด ทั้งมุมมองสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และฝ่ายที่กังวลผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลก
กลุ่มสภาวันอาทิตย์ จัดเวที สาธารณะ หัวข้อ “รถไฟจะไป อโยธยา “ ถกประเด็นกันอย่างร้อนแรง โดยมีผู้เข้าร่วม ทั้งสองข้างความคิด ทั้งมุมมองสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และฝ่ายที่กังวลผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลก แต่ ทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมเสวนา มองร่วมกันว่ารัฐบาลควรเปิดเผยสัญญาและชี้แจงรายละเอียดของโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ทำกับจีนให้ประชาชนทราบ
กลุ่มสภาวันอาทิตย์ องค์กรภาคประชาชน ที่ทำงานด้าน ระดมความคิด มุมมอง ข้อเสนอ ต่างๆเพื่อเป็นเสียงสะท้อนทางสังคม ในการแก้ปัญหา ข้อขัดแย้ง รวมถึง นำเสนอแนวทางพัฒนา ซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 1 ปีที่ผ่านมา
ล่าสุด วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 กลุ่มสภาวันอาทิตย์ ได้จัดเวที สาธารณะ หัวข้อ "รถไฟจะไป อโยธยา" ที่ Treppenhaus Bangkok เพื่อถกเถียงในประเด็น การสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านอยุธยา โดยมีผู้เข้าร่วม ทั้งสองข้างความคิด ทั้งมุมมองสนับสนุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และฝ่ายที่กังวลผลกระทบกับพื้นที่มรดกโลก โดย ผู้ที่เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ ประกอบด้วย ดร. เดชรัตน์ สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ,สส. ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส อยุธยา พรรคก้าวไกล , วัชรวงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ ตัวแทนประชาชนอยุธยา และอดีตนายก อบต ,ดร. ประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย , ภาณุพงศ์ ศานติวัตร ตัวแทนกลุ่ม Saveอโยธยา , จิรวัฒน์ จังหวัด เจ้าของเพจโครงการสร้างพื้นฐานประเทศไทย
•ความเห็นบางส่วนของ ทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายที่เห็นด้วยให้ เดินหน้าโครงการ ซึ่งมีทั้งคนในพื้นที่รวมอยู่ด้วย เห็นว่าโครงการนี้เป็นเมกกะโปรเจค ที่ควรจะเชื่อมต่อไปต่างประเทศ มีส่วนที่จะสร้างเศรษฐกิจ ให้เติบโตอย่างมาก เป็นผลดีในระยะยาว มากกว่าจะใช้แต่เพียงภายในประเทศ และ ที่ผ่านมาได้ผ่านการทำ EIA มาแล้ว แต่เห็นด้วยที่จะให้ ตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เส้นทางที่จะก่อสร้าง มีส่วนที่ไปสร้างความเสียหาย ต่อ วัตถุโบราณที่มีคุณค่า ทั้งที่พบแล้ว และ ที่ยังไม่พบ อีกหรือไม่ ซึ่งผลของการทำแบบสำรวจ HIA (heritage impact assessment) จะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าภาพให้มีการจัดทำตามขั้นตอนของ UNESCO ซึ่งคงจะได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนต่อไป
สำหรับ ฝ่ายที่ห่วงเรื่องผลกระทบมรดกโลก นอกจาก เสนอให้ ทบทวนเส้นทางใหม่แล้ว ยังมองว่า อยากให้ทำประชาพิจารณ์ เรื่องนี้ อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ครั้งเดียวจบ โดยเฉพาะ ที่ผ่านมา ได้จัดทำในช่วงบริหาร ของ คสช ทำให้การ วิพากษ์วิจารณ์ มีข้อจำกัด
พิษณุวัฒน์ สิงห์ชัย ผู้ก่อตั้งสภาวันอาทิตย์ กล่าวว่า วันนี้แม้จะยังมีข้อเห็นต่าง ที่ยังถกเถียงกันอยู่ แต่เบื้องต้นได้ข้อสรุป ที่เห็นตรงกัน คือ ทั้งสองฝ่ายที่เข้าร่วมเสวนา มองร่วมกันว่ารัฐบาลควรเปิดเผยสัญญาและชี้แจงรายละเอียดของโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ทำกับจีนให้ประชาชนทราบ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชนในการทำความเข้าใจกับโครงการและผลกระทบจากโครงการ ซึ่งจะทำให้เห็นว่าใครจะได้ประโยชน์สูงสุด โดยประชาชนทั่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและทั่วประเทศจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
ในเดือนพฤศจิกายน 2566 สภาวันอาทิตย์จะร่วมกับภาคการเมืองและภาคประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อประเด็นผลกระทบจากโครงการทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และประวัติศาสตร์โบราณคดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
