svasdssvasds

เพราะอะไรราคาพลังงาน ถึงลดแค่แปบเดียว? จับตา! ปี‘67'ค่าไฟ เบนซิน ดีเซล' ขึ้น

เพราะอะไรราคาพลังงาน ถึงลดแค่แปบเดียว? จับตา! ปี‘67'ค่าไฟ เบนซิน ดีเซล' ขึ้น

เชื่อว่ามีประชาชนจำนวนมาก สงสัย และตั้งคำถามว่าเพราะอะไรราคาพลังงานไทย ถึงลดแค่แปบเดียว? หลังรัฐบาลใหม่รับตำแหน่ง พร้อมจับตา! ปี‘67'ค่าไฟ เบนซิน ดีเซล' ขึ้นยกแผง

จับตา ! ราคาพลังงานไทยขึ้นอีกระลอก หลังรัฐบาลใหม่ออกตัวแรงปรับลดราคาแค่เพียงไม่นาน ทำเอาประชาชนดีใจได้ไม่นาน และแล้วก็มีข่าวร้ายไปเมื่อเร็วๆนี้ เมื่อ…คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และมีมติเห็นชอบให้ปรับค่าเอฟทีขายปลีก สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน ม.ค. - เม.ย.2567 เท่ากับ 89.55 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 69.07 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บของผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 4.68 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

เรื่องขึ้นค่าไฟ ค่าไฟขึ้น ทำเอาประชาชน และภาคธุรกิจจุกไปตามๆกัน และก็มีมุมมองจากหลายภาคส่วน โดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ออกมายืนยันว่านยันว่าราคาขายไฟฟ้าจริงจะไม่ใช่ตัวเลขที่สำนักงานกกพ. มีมติแน่นอน เพื่อที่จะไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ไฟไม่ต้องรับภาระไปมากกว่านี้ ราคาค่าไฟที่ 4.68 บาทต่อหน่วย เป็นแค่ตัวเลขการคำนวนเบื้องต้นที่คำนวนจาก กกพ.

โดยยึดโยงจากตัวแปรหลักตัวแปรเดียว คือการชำระหนี้ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งการทำงานของกกพ. ทำหน้าที่เป็นการเสนอแนะแนวทางเชิงทฤษฎี เสมือนทีมวิชาการ (Think Tank) ส่วนทีมบริหาร คือกระทรวงพลังงาน

ทั้งนี้ได้กำชับ ได้กำชับคณะทำงาน โดยให้หาแนวทางลดภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้ไม่ให้เจอแรงปะทะหลังเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะถึงนี้ โดยเบื้องต้นจะจัดการราคาไว้ให้อยู่ที่ 4 บาทต่อหน่วย และจะพยายามทำตัวเลขให้ลดลงได้มากที่สุด ซึ่งราคาใกล้เคียงความเป็นจริงที่กระทรวงพลังงานจัดการได้ที่ราว 4.20 บาทต่อหน่วย โดยใช้กลไกจัดการผสมผสาน หลายขั้นตอนกว่าการลดราคาค่าไฟปกติทั่วไป ไม่ได้ใช้แค่เรื่องประวิงหนี้ของกฟผ.อย่างเดียว

โดยกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานอ้างอิง แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในส่วนของมาตรการดูแลน้ำมันดีเซลและเบนซิน ได้ใกล้ที่จะครบกำหนดที่ภาครัฐได้มีนโยบายในการดูแลราคาเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับภาคประชาชน โดยน้ำมันดีเซลใช้วิธีการการปรับลดภาษีสรรพสามิตสินค้าน้ำมันดีเซลลงประมาณ 2.50 บาทต่อลิตรร่วมกับการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลเพื่อให้ราคาขายปลีกหน้าสถานีบริการอยู่ที่ 29.94 บาทต่อลิตร ระหว่างวันที่ 20 ก.ย. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566

ในขณะที่ในขณะที่ราคาน้ำมันเบนซิน แบ่งเป็น แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาทต่อลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลงประมาณ 1 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 ลดลงประมาณ 80 สตางค์ต่อลิตร โดยมีผลระหว่างวันที่ 7 พ.ย. 2566 ถึง 31 ม.ค. 2567 นั่นหมายความว่า สิ้นม.ค.67เบนซินเตรียมขึ้นราคา

ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะเข้าไปพูดคุยรายละเอียดทั้งหมดในฐานะประธาน กพช. ส่วนจะมีมาตรการต่อเนื่องหรือไม่ ก็ต้องไปนั่งดูก่อนเพราะเป็นเรื่องของงบประมาณด้วย แต่ขึ้นไปถึง 4.68 บาท คงไม่ไหว มากเกินไป แนวโน้มจะขึ้นจาก 3.99 บาท แต่ไม่ถึง 4.68 บาท แน่นอน

เรื่องค่าไฟขึ้น ขึ้นราคาค่าไฟ เป็นสิ่งที่ประชาชนหนักใจที่สุดในตอนนี้ ไหนจะมีโอกาสเสี่ยงที่น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล จะปรับขึ้นอีกในปี2567 เรียกได้ว่าเป็นระเบิดเวลา 'พลังงานไทย' ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนให้รับมือ 'ค่าไฟ-เบนซิน-ดีเซล' ขึ้นราคาอีกในปีหน้า !

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related