svasdssvasds

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

ทำความรู้จัก สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก ปี 1996 ที่เส้นทางชีวิต จากฮีโร่กำลังจะกลายเป็น "ซีโร่" ศูนย์ เมื่อเขาถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับ "คดีพรากผู้เยาว์" สาว 17 ปี เราขอพาไปทำความรู้จัก และเปิดเรื่องราวชีวิต ของอดีตเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยกัน

ประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์

สมรักษ์ คำสิงห์ ชื่อเล่นคือ บาส
ฉายาคือ โม้อมตะ วลีเด็ด : ไม่ได้โม้! 
เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2516
ภูมิลำเนา : ขอนแก่น
เข้าเรียนครั้งแรกที่โรงเรียนมหาไถ่ศึกษาโนนสมบูรณ์
จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนผะดุงศิษย์พิทยา

สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ "บาส" เกิดในครอบครัวยากจน เป็นลูกคนกลาง ของ นายแดงและนางประยูร คำสิงห์  ในจำนวนลูกทั้ง 3 คน โดยสาเหตุที่มีชื่อเล่นว่า "บาส" ก็เพราะต้องการให้คล้องกับชื่อเล่นของพี่ชายซึ่งเป็นนักมวยด้วยเหมือนกัน

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

ด้วยเหตุที่สมรักษ์มีพ่อเป็นนักมวยเก่า จึงได้รับการฝึกการชกมวยไทยมาตั้งแต่เด็ก เขาขึ้นชกมวยครั้งแรกขณะอายุได้ 7 ปี และได้ตระเวนชกตามเวทีงานวัดต่าง ๆ จนทั่ว และได้รับการทาบทามจาก ณรงค์ กองณรงค์ หัวหน้าคณะณรงค์ยิมให้มาร่วมค่าย สมรักษ์จึงขอขึ้นชกมวยไทยในชื่อ สมรักษ์ ณรงค์ยิม และกลายเป็นนักมวยมีชื่อในแถบจังหวัดขอนแก่น  และ สมรักษ์ขึ้นชกมวยไทยในชื่อ "พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ" 

หลังจากนั้นเขาเข้ามาชกมวยในกรุงเทพฯโดยชกทั้งมวยไทย และมวยสากลสมัครเล่น โดย บาส สมรักษ์ คำสิงห์ เริ่มเข้าแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในนามของโรงเรียน เมื่อปี พ.ศ. 2528 เมื่ออายุ 12 ปี ได้รับการทาบทามจากสโมสรราชนาวีให้ชกมวยสากลสมัครเล่นในนามของสโมสรและจะบรรจุให้เข้ารับราชการในกองทัพเรือด้วย สมรักษ์ คำสิงห์ จึงตอบตกลง สมรักษ์ คำสิงห์ ประสบความสำเร็จได้ทั้งแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ

สมรักษ์ คำสิงห์ เข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขันโอลิมปิก ที่บาร์เซโลนา ในปี 1992  สมรักษ์เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการเป็นนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียว ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี 19947 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเกือบจะถูกตัดสิทธิ์เพราะตรวจสมรรถภาพร่างกายไม่ผ่านในครั้งแรก

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย
 

ในปี 1995  สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้สมรักษ์โด่งดังถึงที่สุดในปี 1996 เมื่อสมรักษ์สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ ในโอลิมปิก เกมส์ 1996 ที่แอตแลนต้า 

โดยสมรักษ์ คำสิงห์ ชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5 ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนี้ (ในวันที่ 4 สิงหาคม 2539 ตามเวลาสหรัฐฯ แต่จะเป็นเช้าวันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม ตามเวลาประเทศไทยแล้ว ณ ตอนนั้น) โดยการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท มาด้วย เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ และทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์เป็นเรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็นจ่าเอก (จ.อ.)

สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย  ในแอตแลนต้า เกมส์ ปี 1966
.
และทราบหรือไม่ว่า ในโอลิมปิก 1996 รุ่นสมรักษ์นั้น (ต่ำกว่า 57 กิโลกรัม) มีนักมวยคนสำคัญของโลกลงแข่งในปีนั้นด้วย นั่นคือฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ซึ่งได้เหรียญทองแดง เพราะในรอบรองฯ ไปแพ้ คู่ชิงฯของสมรักษ์  

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

• ชีวิตหลังเป็นวีรบุรุษโอลิมปิก


ภายหลังจากได้เหรียญทองโอลิมปิก 1996 แล้ว สมรักษ์กลายเป็นบุคคลในแสงสปอร์ตไลท์ของสังคมในทันที  เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในเวลาไม่นาน ด้วยความเป็นคนมีบุคลิกเฮฮา มีสีสัน น่าสนใจ ภายหลังจากกลับมาจากโอลิมปิกที่แอตแลนตาแล้ว สมรักษ์ก็มีงานในวงการบันเทิงเข้ามา เริ่มจากละครเรื่อง “นายขนมต้ม” ทางช่อง 7 ที่รับบทเป็นนายขนมต้ม นักแสดงนำ โดยประกบคู่กับ กุลณัฐ ปรียะวัฒน์ เป็นนักแสดงนำหญิง และเพื่อน ๆ นักมวยรุ่นพี่อีกหลายคน อาทิ เขาทราย แกเล็คซี่ และ สามารถ พยัคฆ์อรุณ

นับแต่นั้นมา สมรักษ์ คำสิงห์ ก็มีสถานะเหมือนเป็นดาราคนหนึ่ง มีงานต่าง ๆ เข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้สมรักษ์เอาใจใส่ในการชกมวยน้อยลง จนมีข่าวว่าซ้อมน้อยลงบ้าง หนีซ้อมบ้าง แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าฝีมือของตัวเองยังคงเหมือนเดิม ถึงขนาดกล้าทำนายผลการชกล่วงหน้า ซึ่งก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง จนได้ฉายาว่า “โม้อมตะ” แต่หลังจากได้รับเหรียญทองกีฬาเอเชียนเกมส์ในปี 1998  แล้ว การชกครั้งหลังจากนี้ 

สมรักษ์ คำสิงห์ ไม่ประสบความสำเร็จเลย ในการแข่งขันโอลิมปิกที่ซิดนีย์ ปี 2000 สมรักษ์เข้าแข่งขันในรุ่นเฟเธอร์เวต รอบแรก ชนะอาร์เอสซี อันเดรส โลเดสมา จากโคลอมเบีย ยก 4 เมื่อ 18 กันยายน รอบสอง ชนะ ตุลกุนบาย ตูร์กูนอฟ จากอุซเบกิสถาน เมื่อ 23 กันยายน รอบ 8 คนสุดท้าย แพ้ ร็อกกี้ ฮัวเรซ จากสหรัฐเมื่อ 27 กันยายน และในโอลิมปิก ที่กรุงเอเธนส์ 2004 สมรักษ์เข้าแข่งขันรุ่นเฟเธอร์เวต รอบแรก แพ้คะแนน เบโนต กูเดต จากแคนาดา ตกรอบเมื่อ 16 สิงหาคม ทำให้เลิกชกมวยสากลสมัครเล่นอย่างเด็ดขาด 

ปัจจุบัน สมรักษ์ คำสิงห์ เคยมีกิจการของตัวเอง เช่น ร้านหมูกระทะ ชื่อ “สมรักษ์ย่างเกาหลี” ย่านเกษตร-นวมินทร์ และมีค่ายมวยของตนเอง ชื่อค่าย “ส.คำสิงห์”

เปิดประวัติ สมรักษ์ คำสิงห์ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย

• ชีวิตส่วนตัว และ ชีวิตครอบครัวสมรักษ์ คำสิงห์ 


สมรักษ์สมรสกับนางเสาวนีย์ คำสิงห์ ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเรียนหนังสืออยู่ที่ขอนแก่น มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิง ชื่อ “เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์” เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 (23 ปี) คนเล็กเป็นชาย ชื่อ “โบ๊ท-ภูวรักษ์ คำสิงห์” เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2550 

• เส้นทางการเมืองสมรักษ์ 


ในวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 สมรักษ์ได้เปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกับเพื่อนนักมวยอีก 3 คน ได้แก่ เขาทราย แกแล็คซี่, มนัส บุญจำนงค์ และเจริญทอง เกียรติบ้านช่อง โดยที่สมรักษ์ลงรับสมัครเลือกตั้งในเขต 10 อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 สมรักษ์ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 11 จังหวัดขอนแก่น สังกัดพรรคพลังประชารัฐ แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

• เส้นทางธุรกิจของสมรักษ์ 

อดีตนักชกฮีโร่โอลิมปิกเกมส์ 1996 ประกอบธุรกิจส่วนตัวมากมากหลังแขวนนวม ทิ้งกลิ่นสาบสังเวียนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  คลินิก ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพและความงาม, ครีมฮีโร่ บัส ธุรกิจครีม และโลชั่น ขายผ่านช่องทางออนไลน์ และร้านหมูกระทะ “สมรักษ์ย่างเกาหลี”  

และด้วยความเป็นคนมวยมาก่อน "สมรักษ์"เปิดค่ายมวย “ส.คำสิงห์” เขาลงมือถ่ายทอดวิชามวยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านแดดลมฝนมาสอนนักมวยหน้าใหม่ด้วยตัวเอง รวมทั้งเคยทำธุรกิจเปิดธุรกิจสถานีบริการน้ำมันที่ จ.ชัยภูมิด้วย

ซึ่งธุรกิจน้ำมันที่เขาลงทุนเปิดให้พ่อตา แม่ยาย ส่งผลให้ สมรักษ์ คําสิงห์ และ ภรรยา กลายเป็นบุคคลล้มละลาย เมื่อธุรกิจน้ำมันของให้กับพ่อตาแม่ยายที่ จ.ชัยภูมิ ขาดทุน เป็นหนี้สินกว่า 4 ล้านบาท 

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ.2561 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่องคําสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด โดยระบุว่า ด้วยบริษัท บริหารสินทรัพย์ มหานคร จํากัด ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จําเลยทั้งสองล้มละลาย ประกอบด้วย นางเสาวนีย์ คำสิงห์ จําเลยที่ 1 และนายสมรักษ์ คําสิงห์ จําเลยที่ 2

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related