ธรรมนัส ชี้ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ปม “ศรีสุวรรณ” กับพวก ตบทรัพย์

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานเบื้องต้น เกี่ยวกับการขู่รีดไถเงินอธิบดีกรมการข้าว เพื่อแลกกับการไม่ยื่นเรื่องร้องเรียน โดย นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อน ทั้งเรื่องของการขู่รีดไถข้าราชการ และการทำงานของราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เรื่องนี้อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกต้องว่าไม่ตามนั้น ต้องให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย]

ทั้งนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ตนขอย้ำว่า การทำงานของข้าราชการกระทรวงเกษตรฯต้องทำงานด้วยความโปร่งใส ซึ่งเป็นนโยบายหลักในการบริหารงานของกระทรวงฯ ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และยืนยันว่า หากมีการร้องเรียนหรือการกระทำผิด ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯพร้อมรับการตรวจสอบเสมอ

"ผมขอย้ำว่า เรื่องการทำงานของราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯต้องโปร่งใส พร้อมรับการตรวจสอบเสมอ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกต้องว่าไม่ตามนั้น ต้องให้ความยุติธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย"ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บอกถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายศรีสุวรรณ จรรยา นายยศวิรศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และน.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติและหนึ่งในคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 ร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและสนับสนันเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ ว่า เรื่องนี้เริ่มก่อหวอดว่ามีการถูกร้องเรียนมาตั้งแต่ต้นปี 2566 เริ่มมีหนังสือร้องเรียนบัตรสนเท่ไปหาตัวผู้เสียหาย จนช่วงปลายๆ ปีก็เริ่มมีข้อมูลรับแจ้งมาและมีการไปคุยเพื่อไปเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้มีพยานหลักฐานพอสมควร และวันที่ 4 ม.ค.67 ผู้กล่าวหามาแจ้งความให้ดำเนอนคดี และตำรวจก็ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนไปขอศาลออกหมายจับ และนำไปสู่การจับกุมเมื่อวาน 

โดยตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนว่า กลุ่มผู้ถูกกล่าวหา มีการวางแผนมาตั้งแต่ต้นปี 2566 หรือไม่ส่วนทั้ง 3 คน เกี่ยวข้องกันอย่างไรนั้น ก็อย่างที่เห็นว่า มีการไปแถลงข่าวด้วยกันหลายครั้งหลายหน และผู้หญิงอีกคน เท่าที่มีข้อมูลเป็นคนสนิท ที่เหมือนเป็นเลขาของ เจ๋ง ดอกจิก

ทั้งนี้ไม่สามารถลงในรายละเอียดในการเรียกรับเงินได้ แต่บอกได้ว่าข้อกล่าวทั้ง 3 คนไปร่วมกันเรียกรับ และพบว่า ทั้ง 3 คนมีความสัมพันธ์กันพอสมควร แต่ยังไม่ขอเปิดเผย โดยมีพยานหลักฐานที่เห็นความสัมพันธ์กันจนนำพยานหลักฐานไปขอหมายจับ ทั้งพยานหลักฐานเส้นเงิน คลิปเสียง ที่เป็นพยานหลักฐานสำคัญ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นๆด้วย และตอนนี้อยู่ระหว่างการขยายผล

พล.ต.ท.จิรภพ บอกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทั้ง 3 คน และยังไม่ขอให้รายละเอีบดอะไรมาก โดยจะขอกลับไปทำคำชี้แจงโดยละเอียดมาส่งให้ภายหลัง ซึ่งตามหลักการประมาณ 15 วัน

ส่วนที่นายศรีสุวรรณ อ้างว่า มีการโยนเงิน 5 แสนบาททิ้ง เนื่องมาจากเห็นว่ามีใครก็ไม่รู้นำเงินมาแขวนไว้ และให้ภรรยานำมาให้ดูเมื่อไม่ใช่เงินตนเองก็ปัดทิ้ง นั้น 

พล.ต.ท.จิรภพ บอกว่า ผู้ต้องหาจะให้การอะไรก็ได้ แต่ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ที่สุด และเบื้องต้นมั่นใจว่า พยานหลักฐานแน่นหนาและค่อนข้างสมบูรณ์ โดยจะใช้ความยุติธรรมในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม และยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนภรรยานายศรีสุวรรณที่อ้างว่า พบว่า เป็นคนทิ้งเงิน 5 แสนนั้นจะโดนด้วยไม่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความผิดด้วยหรือไม่ โดยจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และให้วามเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีที่ นายเจ๋ง ดอกจิก อ้างว่า ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมืองแล้วนั้น ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยังระบุ ผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องทำให้การชี้แจงมา แล้วตำรวจก็ต้องไปตรวจสอบว่า ลาออกแล้วจริงหรือไม่ และตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำให้การ ส่วนจะเมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะมีการสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องก็เป็นขั้นตอนหลังจากนี้ แต่ยืนยัน ตำรวจว่ามีพยานหลักฐานที่นำไปสู่การขอหมายจับได้