อาณาจักร “คิงส์โรมัน” หมุดหมายใหม่ของหนุ่มสาวชาวลาว “ขุดทอง” โกยเงินหยวน
อาณาจักร "คิงส์โรมัน" เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หมุดหมายใหม่ของหนุ่มสาวชาวลาว หวังมาโกยเงินหยวนเพิ่มคุณภาพชีวติ หลังเศรษฐกิจในประเทศไม่สู้ดีนัก
เชียงรายจังหวัดที่อยู่เหนือสุดแดนสยาม มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ทั้งยังมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่าและประเทศลาว ปัจจุบันจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเป็นอันดับสองในภาคเหนือ รองจากจังหวัดเชียงใหม่
อาณาจักรคิงส์โรมัน
แต่ในอีกมุมหนึ่งที่คนรู้จักเมื่อพูดถึงจังหวัดเชียงราย คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ หรือ “คิงส์โรมัน” แขวงบ่อแก้ว ส.ป.ป.ลาว ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งในสายตาของคนส่วนใหญ่อาจมองในแง่ลบ ต่อการเกิดขึ้นของสถานที่แห่งนี้ แต่ในมุมหนึ่งของผู้แสวงหาโอกาส หารายได้ กลับมิมองเช่นนั้น และไม่ต่างจากอดีตที่คนไทยแห่แหนเดินทางไปทำงานในต่างแดน โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันออกกลางที่มีค่าจ้างแรงงานที่สูง หรือปัจจุบัน ลักลอบเป็น“ผีน้อย”เข้าไปทำงานในเกาหลีใต้ หรือไปเก็บผลไม้ในฟินแลนด์ และสวีเดน
ลู่ทางหาเงินในอาณาจักรคิงส์โรมัน
“คิงส์โรมัน”แหล่งศูนย์รวมทางการค้าและการท่องเที่ยว เมืองที่ไม่เคยหลับใหล กลายเป็นแหล่งที่คนหนุ่มสาวชาวลาว อยากมาหางานหาการทำ ประกอบกับเศรษฐกิจในประเทศที่ไม่สู้ดีนัก โดยนางสาวน้อยหน่า พนักงานสาวชาวลาว ของคิงส์โรมัน ซึ่งเกิดในครอบครัวข้าราชการ บอกว่า เคยทำงานเป็นพนักงานธนาคารถึง 2 แห่ง แม้ว่าจะมีรายได้มากกว่า พ่อซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และพี่สาวที่รับราชการเหมือนกันที่รับเงินเดือนเพียงหลักพันบาท
ที่ผ่านมา หลังจากศึกษาจบจากต่างประเทศ ทางครอบครัวพยายามที่จะให้เข้ารับราชการ แต่ตนก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด เพราะว่าทราบดีว่าเงินเดือนข้าราชการลาวน้อยมาก ไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ จึงผันไปทำงานธนาคารก่อนจะมาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษในปัจจุบัน แม้ว่าค่าตอบแทนไม่สูง แต่ก็มากกว่าสมาชิกในครอบครัวหลายเท่า รวมทั้งมีสวัสดิการอาหารและที่พักฟรี
ขณะเดียวกัน ตนก็มาเช่าพื้นที่เปิดร้านขายอาหารในตลาดกลางคืน แม้ว่าค่าเช่าจะสูง หรือประมาณ 3 เดือน 1 แสนบาท แต่เมื่อหักลบค่าใช้จ่ายจะมีรายได้เดือนละ 5 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาทเลยทีเดียวเนื่องจากกำลังซื้อจากคนจีนค่อนข้างสูง
นายสิทธิ ไชยวงศ์ พ่อค้าชาวลาว เล่าว่า เมื่อ 10 กว่าปีก่อนตนเปิดร้านอาหารที่แขวงไชยบุรีและครอบครัวอยากให้มาอยู่ใกล้กัน จึงโยกย้ายมาเช่าอาคารปีละ 180,000 บาท เปิดร้านอาหารที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ส.ป.ป.ลาว อยู่บริเวณหน้าด่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยให้บริการจัดเลี้ยง โต๊ะจีน ซึ่งมีรายได้ค่อนข้างดีมาก เพราะว่าในขณะนั้นไม่ค่อยมีร้านอาหาร แต่ปัจจุบัน เมืองเริ่มขยายจึงมี่ร้านค้า และร้านอาหารเกิดขึ้นราวดอกเห็ด
จากปัจจัยดังกล่าวจึงตัดสินใจที่จะหาลู่ทางเข้ามาประกอบอาชีพในเขตเศรษฐกิจพิเศษ พร้อมกับเรียนรู้เรื่องการสื่อสารด้วยภาษาจีน ก่อนจะมีลู่ทางการทำอาหารขายเมื่อ 5-6 เดือนก่อน โดยจะมีนายทุนจีนเปิดห้องพักเป็นครัว พร้อมที่พักให้ฟรี ปรุงอาหารสดทุกเช้าขายให้กับคนที่ที่พักภายในตึก ซึ่งการจับจ่ายซื้อข้าวของและปรุงอาหาร ตนจะรับผิดชอบทั้งหมด เมื่อขายได้นายทุนจะหักรายได้ 20% แต่ละวันจะมีรายได้ 3000-5000 หยวน
ทางด้านนางสาวใจ ซ้ง สาวชาวลาวเชื้อสายม้ง วัย 37 ปี บอกว่า ตนอาศัยอยู่ที่แขวงไชยบุรี ตรงข้าม จ.น่าน ได้ไปเป็นลูกจ้างร้านขายไก่ทอด ที่จ.อุบลราชธานี เมื่อ 12 ปีก่อน ได้รับเงินเดือนละ 12,000 บาท พร้อมที่พักฟรี นายจ้างซึ่งเป็นคนไทยเชื้อสายม้งเหมือนกันเช่าบ้านไว้ให้พักอาศัย แม้ว่ารายได้จะดีกว่าลาว แต่งานที่ทำงานค่อนข้างหนักพอสมควร
เมื่อทราบว่ามีการจัดเทศกาลดอกงิ้วบ้านครั้งที่ 21 จึงตัดสินใจเดินทางมากว่า 16 ชั่วโมง ใช้เงินเก็บ ร่วมลงทุนกันญาติๆมาเช่าบูธทดลองขายของจำพวก ข้าวเหนียวไก่ทอด ลูกชิ้นทอด ยำ และเครื่องดื่ม เชื่อว่าจะขายดีเพราะกำลังซื้อค่อนข้างสูง
กระนั้นก็ตาม อนาคตอยากมีโอกาสเข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากเห็นว่าญาติเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้าน มีรายได้ 4,000 หยวน หรือ 20,000 บาท พร้อมที่พักและอาหารฟรี แต่ติดปัญหาเรื่องการใช้ภาษาจีน อาจจะไม่ได้รับการพิจารณา
ส่วนการเปิดร้านภายในเขตเศรษฐกิจ น่าจะเป็นเรื่องเกินฝันเพราะว่าค่าเช่าแพงมากและกลัวไม่ถูกปากลูกค้าชาวจีน ทำให้ขายไม่ได้ ที่สำคัญไม่มีที่พักและค่าเช่าก็สูงตกเดือนละ 20,000 บาทเป็นอย่างน้อย
นายมนตรี คำเงิน หนุ่มจากอ.แม่สาย จ.เชียงราย กล่าวว่า ตนมาเปิดร้านอาหารขายก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง และส้มตำที่เมืองต้นผึ้ง หน้าด่านเขตเศรษฐกิจพิเศษเมื่อกว่า 10 ปีก่อน เมื่อมีโอกาสจึงมาเปิดบูธขายอาหารในงานเทศกาลดอกงิ้วบาน ถือว่าขายได้ดีพอสมควร ในอนาคตหากมีโอกาส อยากจะลองมาเปิดร้านในเขตเศรษฐกิจ แต่ติดปัญหาเหมือนกับหลายๆคน เรื่องค่าเช่าแพง ไม่มีที่พักอาศัย และที่สำคัญเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาจีนคิงส์โรมัน มาเก๊าแห่งลุ่มน้ำโขง แม้หลายฝ่ายจะมองว่าเป็นดินแดนธุรกิจสีเทา แต่ก็เป็นหมุดหมายใหม่ของผู้แสวงหาโอกาสใหม่ๆ สำหรับเลี้ยงปากท้อง โดยเฉพาะบุคคลที่มีความรู้เรื่องภาษาจีน จึงไม่แปลกที่จะมีแรงงานหลายภาคส่วนแห่แหนเข้าไปทำมาหากินกันอย่างคึกคัก
ทั้งนี้ อาณาจักรคิงส์โรมัน มีขนาดพื้นที่ใหญ่โตพอ ๆ กับเกาะมาเก๊า ซึ่งในความเป็นจริงจะรับรู้ว่า อาณาจักรแห่งนี้มีรัฐบาลลาวถือหุ้นอยู่ด้วยร้อยละ 30 ทำให้คิงส์โรมันไม่ต้องจ่ายค่าสัมปทานรายปี และได้รับการยกเว้นภาษีตามสิทธิพิเศษอีกหลายประการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
