ทรัมป์สั่งระงับออก 'วีซ่านักเรียน' รอตรวจแนวโน้ม 'ก่อการร้าย'

โดยปกติแล้ว หากนักเรียน-นักศึกษาที่ต้องการเดินทางไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกา จะต้องยื่นคำร้องและนัดหมายกำหนดการสัมภาษณ์ที่สถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศบ้านเกิดของตนก่อนที่จะได้รับการอนุมัติ

แต่ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้สถานทูตยกเลิกการออกวีซ่านักเรียนที่กำลังจะนัดหมายลงในกำหนดการทั้งหมดชั่วคราว โดยอ้างว่าให้รอกระบวนการตรวจสอบทางโซเชียลมีเดียของผู้สมัครแต่ละคน ส่วนการนัดหมายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้สามารถดำเนินการต่อไปได้
 

การระงับวีซ่านักเรียนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังทรัมป์กล่าวหาว่ามีมหาวิทยาลัยชั้นนำบางแห่งของสหรัฐฯ ที่เปิดโอกาสให้เกิดการต่อต้านชาวยิวในสถานศึกษา เช่น การประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เขาจึงต้องการการขยายขอบเขตการคัดกรอง โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดียของนักเรียน และเน้นไปที่การค้นหาสิ่งที่รัฐบาลมองว่าเป็นการสนับสนุน "กิจกรรมก่อการร้าย"

ด้านแทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันกับนักข่าวอย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการคัดกรองผู้ที่เข้ามาในประเทศ และจะดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ต่อไป

ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ยังสั่งอายัดเงินทุนหลายร้อยล้านดอลลาร์สำหรับมหาวิทยาลัย ดำเนินการเนรเทศนักศึกษา รวมถึงเพิกถอนวีซ่าของนักศึกษาอีกหลายพันคน แต่การดำเนินการเหล่านี้ถูกศาลสั่งระงับ เนื่องจากจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่มีนักศึกษาอย่างน้อยหนึ่งในสี่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นของโลก