สรุป สถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา: ท่าทีของฝั่งกัมพูชาก่อนประชุม JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ดูจะแข็งกร้าวในทุกๆ มิติ
ก่อนที่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) จะประชุมอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิ.ย. 2568 สถานการณ์ชายแดนร้อนระอุจากกรณีการปะทะที่ “ช่องบก” จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตของทหารกัมพูชาหนึ่งนาย เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เพียงจุดชนวนความไม่ไว้วางใจ แต่ยังเปิดทางให้กัมพูชาเดินหมากรุกเชิงยุทธศาสตร์อย่างเข้มข้นทั้งด้านการทูต เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
1. ปิดด่านชายแดนกะทันหัน
วันที่ 13 มิ.ย. 2568 กัมพูชาสั่งปิดด่านบ้านแหลม อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ส่งผลให้รถขนส่งโดยเฉพาะผลไม้ไทยติดค้างยาวเหยียด ฝั่งไทยยังเปิดด่านตามปกติ
ฮุนเซนโพสต์ท้าทาย: “ถ้าผลไม้ไทยไม่ข้ามได้ ให้เกษตรกรไทยไปประท้วงกองทัพของตัวเอง เพราะกัมพูชาจะเปิดด่านก็ต่อเมื่อไทยยอมถอย”
2. เดินหน้าใช้เวทีโลก
กัมพูชาจัดตั้งคณะกรรมการกฎหมาย เตรียมยื่นเรื่องต่อศาลโลก (ICJ) ขณะไทยยืนยันใช้กลไกทวิภาคีอย่าง JBC เท่านั้น และไม่ยอมรับอำนาจ ICJ ในการพิจารณาเขตแดน
3. บล็อกเศรษฐกิจ–สื่อบันเทิงไทย
หยุดซื้ออินเทอร์เน็ตและไฟฟ้าจากไทย และ บริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของกัมพูชา 3 ราย ได้แก่ Metfone, Smart และ Cellcard ประกาศพร้อมเพรียงกันว่า ได้ดำเนินการ “เปลี่ยนเส้นทางสัญญาณอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ (International IP Transit)” ตามนโยบายของ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการผลักดันความเป็น “อิสระทางดิจิทัลของชาติ”
แบนละคร-ภาพยนตร์ไทยทุกช่อง
แบน “นักมวยไทย” ทุกเวที จาก สหพันธ์กุนขแมร์ (Kun Khmer Federation) ภายใต้การควบคุมของกัมพูชา
4. ฮุนเซน เสนอ 6 มาตรการตอบโต้ หากไทยไม่เปิดด่าน
1. ระงับการนำเข้าสินค้าจากประเทศไทย โดยจะหันมาใช้สินค้าภายในประเทศหรือจากประเทศอื่นแทน
2. รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่เคยส่งออกไปยังไทย พร้อมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
3. เปลี่ยนเส้นทางการรักษาพยาบาลของประชาชนกัมพูชา จากเดิมที่เคยพึ่งพาสถานพยาบาลในไทย ไปยังโรงพยาบาลภายในประเทศหรือประเทศอื่น
4. เตรียมรองรับแรงงานที่อาจเดินทางกลับจากไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และก่อสร้าง ซึ่งยังมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก
5. สั่งการให้กองกำลังทุกหน่วยอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจเกิดความไม่สงบ
6. ให้จังหวัดชายแดนเตรียมการอพยพประชาชนและจัดหาสิ่งของจำเป็น เช่น อาหาร ยา และเวชภัณฑ์
เกมตัดหน้า: สร้างภาพว่าควบคุมสถานการณ์อยู่
หันรับเป็นรุก: รัฐบาลกัมพูชาใช้โอกาสนี้ย้ำอำนาจอธิปไตยในประเทศ
มีเส้นหลังบ้าน: เชื่อมโยงระบบเน็ตและไฟฟ้ากับเวียดนามและจีน
ปลุกกระแสรักชาติ: ปั้น “ศัตรูภายนอก” เพื่อรวมพลังภายใน
แม้การประชุม JBC จะเป็นเครื่องมือสันติภาพที่สำคัญ แต่ความต่างทางหลักการ—โดยเฉพาะเรื่อง ICJ—อาจทำให้กลไกนี้ถูก "แช่แข็ง" และเปิดทางให้ความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในระยะยาว
ถ้าความร่วมมือไม่เกิด ความขัดแย้งจะยืดเยื้อ และนี่อาจเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญในความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง